ลิ้นปีกผีเสื้อเสียมีอาการอย่างไร? Share this
Lifestyle
โหมดการอ่าน

ลิ้นปีกผีเสื้อเสียมีอาการอย่างไร?

Sunuttinee Phumbanyen
โดย Sunuttinee Phumbanyen
โพสต์เมื่อ 1 วันที่ผ่านมา

มาดูการทำงานของปีกผีเสื้อใน ว่ามีความสำคัญกับรถยนต์ของคุณอย่างไร หากเกิดปัญหาจะมีอาการแบบไหนบ้าง และจะสามารถแก้ไขได้อย่างไร


ลิ้นปีกผีเสื้อรถยนต์

ในโลกแห่งเครื่องยนต์สันดาปที่เราขับขี่กันอยู่ทุกวัน มีชิ้นส่วนเล็กๆ แต่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันทำหน้าเปรียบเสมือนปอดของรถ ซึ่งก็คือ "ลิ้นปีกผีเสื้อ" (Throttle Body) หรือที่รู้จักในวงการช่างว่า "เรือนลิ้นเร่ง" หัวใจสำคัญที่ควบคุมปริมาณอากาศที่ไหลเข้าสู่ห้องเผาไหม้ และส่งผลโดยตรงต่อกำลัง การตอบสนอง และแม้แต่การประหยัดน้ำมันของรถคุณ วันนี้เลดี้จะพามาทำความรู้จักกับเจ้าลิ้นปีกผีเสื้อตัวนี้ให้มากขึ้นกันค่ะ

รถอืด กินน้ำมัน รอบสวิง นี่คืออาการผิดปกติของลิ้นปีกผีเสื้อ

ลิ้นปีกผีเสื้อคืออะไร?

ลองนึกภาพวาล์วรูปทรงคล้ายผีเสื้อที่เปิด-ปิดได้ ลิ้นปีกผีเสื้อคือเจ้าวาล์วตัวนี้แหละค่ะ โดยจะตั้งอยู่ระหว่างกรองอากาศกับเครื่องยนต์ ทำหน้าที่เป็นประตูควบคุมปริมาณ "อากาศบริสุทธิ์" ที่จะไหลเข้าไปผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงก่อนที่จะเกิดการเผาไหม้ โดยการเปิด-ปิดของมันจะสัมพันธ์กับการที่คุณเหยียบคันเร่งนั่นเอง

ลิ้นปีกผีเสื้อทำงานยังไง?

กลไกการทำงานของลิ้นปีกผีเสื้อนั้นเรียบง่ายแต่ชาญฉลาด โดยมีรูปแบบการทำงานดังต่อไปนี้

  1. เหยียบคันเร่ง: สัญญาณจากเท้าของคุณจะถูกส่งไปยังกล่องควบคุมเครื่องยนต์ (ECU)
  2. ECU สั่งการ: กล่องสมองกลของรถจะประมวลผลความต้องการกำลังของคุณ แล้วสั่งการให้มอเตอร์หรือกลไกของลิ้นปีกผีเสื้อ "เปิด" หรือ "ปิด" วาล์ว
  3. ควบคุมปริมาณอากาศ:
    • เหยียบน้อย (รอบเดินเบา/ขับช้า): ลิ้นปีกผีเสื้อจะเปิดเพียงนิดเดียว ให้อากาศเข้าเครื่องยนต์น้อยๆ
    • เหยียบเยอะ (เร่งแซง/ขับเร็ว): ลิ้นปีกผีเสื้อจะเปิดกว้างขึ้น ปล่อยให้อากาศไหลเข้าเครื่องยนต์ได้เต็มที่
  4. ผสมกับน้ำมันอย่างลงตัว: ปริมาณอากาศที่ไหลเข้าไปจะถูกวัดอย่างแม่นยำ แล้วส่งข้อมูลให้ ECU คำนวณเพื่อฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงในปริมาณที่เหมาะสมที่สุด การผสมผสานที่ลงตัวนี้เองที่ทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์และเกิดกำลังสูงสุด

กลไกการทำงานของลิ้นปีกผีเสื้อ

ทำไมลิ้นปีกผีเสื้อถึงสำคัญกับรถ?

เพราะมันมีบทบาทโดยตรงต่อประสิทธิภาพการขับขี่ในทุกๆ ด้าน อาทิ

  • ควบคุมกำลังเครื่องยนต์: เป็นตัวแปรสำคัญที่กำหนดว่าเครื่องยนต์จะสร้างกำลังได้มากแค่ไหน และตอบสนองต่อการเหยียบคันเร่งได้รวดเร็วเพียงใด
  • ควบคุมรอบเดินเบาให้คงที่: ในรอบเดินเบา ลิ้นปีกผีเสื้อจะเปิดในตำแหน่งที่แม่นยำเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างนิ่งและต่อเนื่อง
  • ช่วยประหยัดน้ำมัน: การควบคุมปริมาณอากาศและน้ำมันให้พอดี คือกุญแจสำคัญสู่การเผาไหม้ที่สมบูรณ์และประหยัดเชื้อเพลิง
  • ลดมลพิษ: การเผาไหม้ที่สมบูรณ์ยังช่วยลดปริมาณก๊าซพิษที่ปล่อยออกมาจากท่อไอเสียอีกด้วย

สัญญาณเตือนเมื่อปีกผีเสื้อเริ่มเสื่อมสภาพ

ลิ้นปีกผีเสื้อเสีย อาการเป็นยังไง?

ปัญหาหลักของลิ้นปีกผีเสื้อมักเกิดจากการสะสมของ คราบเขม่า คราบน้ำมัน หรือ ฝุ่นละออง ทำให้การทำงานไม่ราบรื่น และรถจะฟ้องอาการดังนี้

  1. รอบเดินเบาไม่นิ่ง/สวิงขึ้นลง: เป็นอาการคลาสสิก เพราะลิ้นปีกผีเสื้อเปิด-ปิดไม่แม่นยำในรอบเดินเบา ทำให้ปริมาณอากาศไม่คงที่ เครื่องยนต์จึงสั่น หรือรอบเครื่องขึ้นๆ ลงๆ เอง
  2. เร่งเครื่องไม่ขึ้น/อืด/ไม่มีกำลัง: เหยียบคันเร่งแล้วเหมือนรถไม่ตอบสนอง อืดอาด เร่งไม่ขึ้น เพราะลิ้นปีกผีเสื้อเปิดไม่สุด ทำให้อากาศเข้าเครื่องไม่พอ
  3. เครื่องยนต์สะดุด/กระตุก: การที่อากาศเข้าไม่สม่ำเสมอ อาจทำให้การจุดระเบิดผิดพลาด เกิดอาการรถกระตุกหรือสะดุดขณะขับขี่
  4. รถกินน้ำมันมากกว่าปกติ: เมื่อลิ้นปีกผีเสื้อทำงานผิดปกติ เครื่องยนต์อาจต้องใช้เชื้อเพลิงมากขึ้นเพื่อให้ได้กำลังเท่าเดิม ทำให้คุณต้องจ่ายค่าน้ำมันแพงขึ้นโดยไม่จำเป็น
  5. ไฟเตือนเครื่องยนต์ (Check Engine Light) โชว์: ในรถรุ่นใหม่ๆ ระบบจะตรวจจับความผิดปกติและจะขึ้นไฟเตือนที่หน้าปัด ให้คุณรู้ว่าถึงเวลาต้องเช็คแล้ว

ทำความสะอาดลิ้นปีกผีเสื้อ (ล้างปีกผีเสื้อ)

จำเป็นต้องล้างลิ้นปีกผีเสื้อไหม หรือต้องเปลี่ยนไหม?

การแก้ไขปัญหาลิ้นปีกผีเสื้อเสียหรือทำงานไม่ปกติ ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ ถ้าเป็นน้อยการล้างทำความสะอาดน่าจะเพียงพอต่อการจัดการปัญหาได้ แต่หากมีอาการรุนแรงการเปลี่ยนน่าจะเป็นวิธีแก้ไขที่ดีที่สุด โดยเลดี้มีคำแนะนำให้ ดังนี้

  1. ทำความสะอาดลิ้นปีกผีเสื้อ (ล้างปีกผีเสื้อ) คำถามคือทำไมต้องล้าง หรือ ทำความสะอาดลิ้นปีกผีเสื้อ คำตอบคือ ปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นมาจากคราบสกปรกที่เกาะติดแน่นจนทำให้การเปิด-ปิดไม่ราบรื่น ดังนั้นการทำความสะอาดคือวิธีเบสิกที่สุดแต่ตรงจุดที่สุด โดยสามารถใช้สเปรย์ล้างทำความสะอาดคราบเขม่าและสิ่งสกปรก ทำอย่างน้อยๆ ทุกๆ 40,000 - 80,000 กิโลเมตร (หรือตามคู่มือรถยนต์) แต่ถ้ารถของคุณใช้ระบบไฟฟ้า ควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญเป็นคนถอดล้างเท่านั้น เพราะขึ้นชื่อว่าระบบไฟฟ้า ทั้งปลั๊กทั้งเซ็นเซอร์ยุบยับไปหมด และอาจจะต้องรีเซ็ต ECU หรือ ศึกษาตำแหน่งการเปิด-ปิด ใหม่ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ หากทำเองแล้วติดตั้งกลับไปไม่ตรงตำแหน่ง อาจทำให้รอบเดินเบาเพี้ยนหรือเกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาได้

  2. เปลี่ยนเซ็นเซอร์ตำแหน่งลิ้นปีกผีเสื้อ (TPS) หากเซ็นเซอร์ TPS เสียหาย หรือให้ค่าที่ผิดเพี้ยน เป็นผลให้ ECU ไม่สามารถสั่งการได้อย่างแม่นยำ การเปลี่ยนเซ็นเซอร์ใหม่คือคำตอบของคุณ

  3. เปลี่ยนชุดลิ้นปีกผีเสื้อทั้งชุด ในกรณีที่ลิ้นปีกผีเสื้อสึกหรอมากเกินเยียวยา มอเตอร์ควบคุมเสีย  หรือกลไกภายในเสียหายจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ การเปลี่ยนทั้งชุดคือทางเลือกสุดท้าย และแน่นอนว่ามีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง

ศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถที่เชี่ยวชาญ

หากรถของคุณมีอาการตามที่เลดี้กล่าวมา และคุณไม่มีประสบการณ์ด้านการซ่อมบำรุงรถยนต์ ควรรีบนำรถเข้าตรวจเช็คที่ศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถที่เชี่ยวชาญทันที เพื่อให้ช่างผู้ชำนาญวินิจฉัยและแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย หากปล่อยทิ้งไว้จากประสบการณ์ที่เลดี้เคยประสบมา บอกเลยว่าไม่สนุก! เพราะคุณจะหงุดหงิดจากแดดที่แผดเผา แถมต้องประคองรถหาที่จอดที่ปลอดภัยอีก 

หมั่นดูแลรถของคุณอย่างสม่ำเสมอ และอย่าลืมเช็คสภาพลิ้นปีกผีเสื้อให้ทำงานอย่างสมบูรณ์ เพื่อให้รถของคุณพร้อมทะยานไปทุกเส้นทางได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ