ยานแม่สายลุย คือรถบิ๊กไบค์ที่ใครๆ ก็ชื่นชอบ ด้วยประสิทธิภาพการขับขี่ที่ดีที่ยอดเยี่ยม ช่วงล่างอันยอดเยี่ยม เหมาะสำหรับขับขี่ไปในทุกเส้นทาง มาดูกันว่าในประเทศไทย มีรุ่นไหนให้เลือกบ้าง?
ยานแม่สายลุย
ยานแม่สายลุย ภาพจำของทุกคนก็หนีไม่พ้นรถมอเตอร์ไซค์ทัวร์ริ่งสายลุย ที่มีขนาดใหญ่โต มาพร้อมกับกล่องบรรทุกสัมภาระแบบ 3 ใบ ที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางท่องเที่ยว พร้อมช่วงล่างที่ซับแรงกระแทกได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้มันเป็นรถมอเตอร์ไซค์ในฝันของใครหลายๆ คน
อันที่จริงแล้ว ในตลาดโลก มีรถมอเตอร์ไซค์ประเภทนี้ให้เลือกค่อนข้างมาก ส่วนในประเทศไทย จะมีการเข้ามาจำหน่ายอยู่บ้าง แต่อาจจะไม่ครบทุกแบรนด์ ครบทุกรุ่น วันนี้เราจะหยิบยกมาเฉพาะ 5 รุ่น ที่เราเห็นผ่านตากันบ่อยๆ ในประเทศไทยเป็นหลัก โดยจะเอามาเฉพาะรุ่นที่เป็นเรือธงที่สุดของค่ายนั้นๆ
เพราะจะอัดแน่นเรื่องของเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในตระกูลของเขา พร้อมสมรรถนะที่ดีที่สุดมาให้เลยจากโรงงาน
BMW R 1300 GSA
BMW R 1300 GS Adventure คือรถบิ๊กไบค์สายลุยที่ "ครบเครื่องที่สุด" ในปี 2025 โดยเฉพาะ รุ่น Option 719 ASA ที่มาพร้อมกับระบบ เกียร์อัตโนมัติ ASA (Automated Shift Assistant)เปลี่ยนประสบการณ์การขับขี่ให้ล้ำสมัยกว่าที่เคย — ผสานความแรง ความสะดวก และเทคโนโลยีล้ำระดับหัวแถวของโลกไว้ในคันเดียว
โดยระบบ ASA ช่วยให้คุณขี่รถได้โดยไม่ต้องใช้คลัตช์และไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเองอีกต่อไป โดยสามารถเลือกใช้ได้ทั้งโหมด D (Auto) และ M (Manual) มอบการเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวล แม่นยำ ไม่สะดุดแม้บนทางชัน มาพร้อม ระบบปรับพฤติกรรมอัตโนมัติ ตามลักษณะการขับขี่ เช่น การไต่เขา การเข้าโค้ง หรือการเบรกแรง
นี่คือครั้งแรกที่รถสายแอดเวนเจอร์ของ BMW มอบระบบเกียร์อัตโนมัติที่ “ฉลาดและสนุก” ในเวลาเดียวกัน
เครื่องยนต์ใหม่ Boxer 1,300 cc
BMW R 1300 GSA ปี 2025 ใช้เครื่องยนต์ใหม่แบบ Boxer 2 สูบ ขนาด 1,300 ซีซี มอบกำลังแรงม้าสูงสุด 145 แรงม้า และแรงบิด 149 นิวตันเมตร ระบบระบายความร้อนแบบผสมอากาศ + น้ำมัน ส่งกำลังผ่านเพลาขับท้าย ช่วยลดแรงสะบัดและการบำรุงรักษา ซึ่งพลังและความสมดุลของเครื่อง Boxer รุ่นนี้ เหมาะอย่างยิ่งกับการขี่ทั้งทางดำ ทางฝุ่น และเส้นทางไกล
ระบบช่วงล่างปรับระดับอัตโนมัติ (Adaptive Ride Height)
หนึ่งในเทคโนโลยีที่โดดเด่นคือ Adaptive Ride Height ปรับระดับตัวรถลงอัตโนมัติเมื่อลดความเร็วหรือหยุดนิ่ง เพิ่มความมั่นใจให้ผู้ขี่ในเมืองหรือทางลาดชัน ช่วยลดปัญหา “รถสูงเกินไป” สำหรับคนตัวเล็กเฉกเช่นชาวเอเชีย
BMW ใส่ระบบอิเล็กทรอนิกส์มาให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น
-
โหมดขับขี่ 7 โหมด (Rain, Road, Enduro, Dynamic, Eco ฯลฯ)
-
ระบบ Hill Start Control, Cruise Control แบบ Radar, Cornering ABS
-
หน้าจอ TFT 6.5” เชื่อมต่อได้ทั้งสมาร์ตโฟน, Bluetooth และ Navigation
BMW R 1300 GSA ASA รุ่น Option 719 จำหน่ายในราคา 1,309,000 บาท สำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา เริ่มต้นที่ 1,225,000 บาท
เหมาะกับใคร?
-
สายทัวร์ริ่งที่ต้องการความสะดวกจากระบบอัตโนมัติ
-
คนขี่ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีล้ำยุค ขี่แบบ “ขี่ได้โดยไม่ต้องใช้คลัตช์”
-
นักเดินทางที่ต้องการพลัง เครื่องยนต์แรง ความมั่นใจในทุกสภาพถนน
Honda Africa Twin Adventure Sports
Honda Africa Twin Adventure Sports คือรถบิ๊กไบค์แอดเวนเจอร์ที่พร้อมลุยทุกสภาพเส้นทาง ทั้งทางเรียบ ทางฝุ่น และทางไกล พร้อมเทคโนโลยีการขับขี่ที่ง่ายดายและปลอดภัย ด้วยสมรรถนะอันยอดเยี่ยม ดีไซน์ที่แข็งแกร่ง และระบบ Dual Clutch Transmission (DCT) อันเป็นระบบเกียร์อัตโนมัติที่ใช้งานง่ายมากๆ และทรงพลัง
จุดเด่นของ Honda Africa Twin 2025
หนึ่งในไฮไลต์ของรุ่นนี้คือ ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ DCT ที่มีการเปลี่ยนเกียร์อันทำงานได้ราบรื่นและรวดเร็ว ลดความเมื่อยล้าจากการขับขี่ทางไกลหรือทางฝุ่นได้เป็นอย่างดี เหมาะทั้งสำหรับมือใหม่และนักเดินทางขาประจำ
มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 สูบ 1,084 ซีซี ที่ถูกปรับปรุงใหม่ เพิ่มแรงบิดในรอบต่ำขึ้นอีก 7% ให้การออกตัวและขี่ลุยดินมีพลังยิ่งขึ้น แรงบิดที่ไวขึ้นช่วยให้ควบคุมรถได้ดีในเส้นทางท้าทาย เช่น เส้นทางเขาหรือทางโคลน
ช่วงล่าง Showa EERA™ (Electronically Equipped Ride Adjustment) ที่สามารถปรับระดับอัตโนมัติตามโหลดและสภาพถนน พร้อมระบบช่วยขับขี่ครบครัน เช่น:
-
ระบบเบรก ABS ในโหมด On/Off-Road
-
โหมดขับขี่ให้เลือกถึง 6 โหมด (Tour, Urban, Gravel, Off-Road ฯลฯ)
-
ระบบ Traction Control และ Wheelie Control
แฟริ่งขนาดใหญ่ ถังน้ำมันขนาด 24.8 ลิตร ทำให้ขี่ทางไกลได้แบบไม่ต้องเติมน้ำมันบ่อย อีกทั้งยังมาพร้อม:
-
ระบบไฟ LED รอบคัน พร้อม Daytime Running Light
-
หน้าจอ TFT ขนาด 6.5 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
-
เบาะนั่งปรับระดับได้ ช่วยให้ขับขี่สะดวกทั้งคนตัวสูงและต่ำ
ราคา Honda Africa Twin Adventure Sports
Honda Africa Twin Adventure Sports DCT ปี 2025 วางจำหน่ายในราคา 699,000 บาท ถือเป็นราคาที่คุ้มค่าสำหรับสายแอดเวนเจอร์ที่มองหารถขี่ง่ายและทนทาน
เหมาะกับนักเดินทางสายทัวร์ริ่งที่ชอบขี่ทางไกลแบบสบาย รวมถึงมือใหม่ที่อยากเริ่มต้นด้วยรถคลาสใหญ่ แต่ไม่อยากวุ่นวายกับเกียร์ธรรมดา และผู้ที่ต้องการรถลุยได้จริง ขี่ในเมืองได้บ้าง อีกทั้งยังดูแลไม่ยุ่งยาก เพราะเป็นระบบขับเคลื่อนด้วยโซ่ เหมือนรถบิ๊กไบค์ทั่วไป
Triumph Tiger 1200 Rally Explorer
Triumph Tiger 1200 Rally Explorer 2025 คือรถจักรยานยนต์แอดเวนเจอร์พรีเมียมที่ออกแบบมาเพื่อ “ลุยจริง” และ “ไกลจริง” ด้วยเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง ช่วงล่างพร้อมทุกสภาพทาง และฟีเจอร์ที่ใส่มาเพื่อความปลอดภัยระดับสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางผจญภัยบนสองล้อ โดยเฉพาะในเส้นทางทุรกันดารและธรรมชาติหฤโหด
Tiger 1200 Rally Explorer ใช้ขุมพลัง เครื่องยนต์ 3 สูบเรียง ขนาด 1,160 ซีซี แบบ T-Plane Crank ให้แรงบิดมาไว และให้อารมณ์การขับขี่ที่โดดเด่นกว่าคู่แข่งในคลาสเดียวกัน มีพละกำลังแรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 130 นิวตันเมตร
ส่งกำลังผ่านระบบเพลาขับ (Shaft Drive) ลดการดูแลรักษาและทนทานสูง มาพร้อมระบบ Quickshifter เปลี่ยนเกียร์ได้แม่นยำโดยไม่ต้องกำคลัตช์ ผลลัพธ์คือการเร่งที่นุ่มแต่หนักแน่น เสียงเครื่องเป็นเอกลักษณ์ และเหมาะกับการเดินทางไกลหรือบรรทุกสัมภาระหนักๆ
จุดแข็งเฉพาะตัวของรุ่น Explorer คือ ถังน้ำมันขนาดใหญ่ถึง 30 ลิตร วิ่งทางไกลได้สบายเกิน 600 กม. ต่อการเติมหนึ่งครั้ง เหมาะสำหรับทริปต่างจังหวัด ระยะไกล หรือขี่ข้ามประเทศ แถมยังมาพร้อม เบาะนั่งแบบ Comfort Heated Seats ทั้งผู้ขี่และผู้ซ้อน
ช่วงล่าง Showa Semi-Active Suspension – ปรับอัตโนมัติทุกสภาพถนน
Tiger 1200 Rally Explorer ปี 2025 ใช้ระบบกันสะเทือน Showa Semi-Active ที่สามารถปรับค่าความหนืดแบบอัตโนมัติเรียลไทม์
-
รองรับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยมในเส้นทางออฟโรด
-
ปรับความแข็ง/อ่อนตามโหมดขับขี่และน้ำหนักบรรทุก
-
ล้อหน้า 21 นิ้วแบบซี่ลวด รองรับเส้นทางฝุ่นและลูกรัง
เทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน
Triumph จัดเต็มเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับสูงใน Rally Explorer:
-
ระบบ Cornering ABS และ Cornering Traction Control
-
ระบบ Blind Spot Radar ตรวจจับรถในจุดอับสายตา (เฉพาะรุ่น Explorer เท่านั้น)
-
Cruise Control, Hill Hold Control, TPMS (วัดแรงดันลมยาง), โหมดขับขี่ 6 แบบ
หน้าจอ TFT 7 นิ้ว + ระบบเชื่อมต่อ MyTriumph
-
หน้าจอสี TFT ขนาด 7 นิ้ว สวยงาม ใช้งานง่าย รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟน
-
ระบบ MyTriumph App ใช้ควบคุมแผนที่ ฟังเพลง รับสายโทรศัพท์ ฯลฯ
-
ปุ่มควบคุมแบบ Joystick และ Heated Grips ใช้งานง่ายแม้ใส่ถุงมือ
Harley-Davidson Pan America 1250
Harley-Davidson Pan America 1250 เป็นรถแอดเวนเจอร์สไตล์อเมริกัน ที่แรง เร้าใจ และล้ำเกินคาด โดย Harley-Davidson แบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องครุยเซอร์สุดคลาสสิก กระโดดเข้าตลาดแอดเวนเจอร์ไบค์ด้วยความไม่ธรรมดา และผลลัพธ์คือ Harley-Davidson Pan America 1250 Special ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในรุ่นที่ได้รับคำชมมากที่สุดจากสายลุยทั่วโลก
โดยเฉพาะรุ่น ปี 2025 ที่มีการอัปเกรดระบบช่วงล่างและฟีเจอร์เพิ่มเติม เพื่อให้พร้อมลุยในทุกภูมิประเทศและทุกไลฟ์สไตล์
หัวใจของ Pan America คือเครื่องยนต์ V-Twin Revolution Max ขนาด 1,252 ซีซี ให้พละกำลังสูงสุด 150 แรงม้าแรงบิดสูงสุด 127 นิวตันเมตร มีจุดเด่นที่รอบเครื่องยนต์จัดจ้าน ตอบสนองทันใจทั้งรอบต่ำและสูง มาพร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ช่วยคงประสิทธิภาพแม้ในสภาพอากาศร้อน และด้วยเสียงเครื่องแน่น ดุดันตามสไตล์ Harley แต่ให้ความนุ่มนวลและเร้าใจเหมาะกับสาย Adventure
จุดเด่นที่หลายคนประทับใจในรุ่น Pan America 1250 Special คือระบบ Adaptive Ride Height ตัวรถสามารถปรับลดความสูงเบาะอัตโนมัติเมื่อลดความเร็วหรือหยุดรถ ช่วยให้คนตัวไม่สูงสามารถขี่รถคันใหญ่ได้อย่างมั่นใจ เมื่อขับเร็ว ตัวรถจะปรับสูงขึ้นเพื่อเพิ่มระยะยุบของช่วงล่าง เหมาะกับการลุยเส้นทางวิบาก
Pan America 2025 มาพร้อมโหมดขับขี่ให้เลือกมากถึง 6 โหมด ได้แก่:
-
Road, Sport, Rain, Off-Road, Off-Road Plus และ Custom
-
ระบบ Cornering ABS, Cornering Traction Control และระบบ Engine Brake Control
-
มี Hill Hold Control และ Cruise Control มาให้ครบตั้งแต่โรงงาน
ด้านการออกแบบ Harley-Davidson Pan America ไม่พยายามลอกสไตล์ใคร แต่สร้างแนวทางของตัวเอง ด้วยไฟหน้า LED ทรงแนวนอนสไตล์ “แฮมเมอร์เฮด” แฟริ่งหน้าทรงเหลี่ยมแบบทหาร เน้นลุย ดิบ ดุดัน และที่สำคัญคือหน้าจอสี TFT ขนาด 6.8 นิ้ว ทัชสกรีน รองรับ Bluetooth และระบบนำทางแบบ Turn-by-Turn
Harley-Davidson Pan America 1250 Special ปี 2025 วางจำหน่ายแล้วในประเทศไทยด้วยราคาดังนี้
-
รุ่น ST (ช่วงล่างต่ำ) ราคา 874,000 บาท
-
รุ่น Special ราคา 896,000 บาท
Harley-Davidson Pan America 1250 Special เหมาะกับใคร?
-
สายลุยที่อยากได้รถแอดเวนเจอร์ที่แตกต่างจากกระแสตลาด
-
คนที่ชื่นชอบเครื่อง V-Twin แรงบิดจัด ๆ พร้อมเทคโนโลยีแบบรถยุโรป
-
นักเดินทางที่ให้ความสำคัญกับสไตล์ + ความมั่นใจ + ระบบปรับเบาะอัตโนมัติ
Suzuki V-STROM 1050 DE
Suzuki V-STROM 1050 DE 2025 แอดเวนเจอร์ไบค์สายคุ้ม ลุยได้จริง พร้อมเทคโนโลยีครบ หากคุณกำลังมองหารถแอดเวนเจอร์ที่ “ใช้งานได้จริงในราคาจับต้องได้” พร้อมเครื่องยนต์ที่เชื่อถือได้สูง ช่วงล่างดี และฟีเจอร์อิเล็กทรอนิกส์ที่ครบแบบไม่เกินความจำเป็น Suzuki V-STROM 1050 DE ปี 2025 คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดในคลาสนี้ ด้วยจุดแข็งด้านความสมดุลระหว่าง “สมรรถนะ-ความประหยัด-ความทน” ที่หาได้ยากในกลุ่มรถ ADV ขนาดใหญ่
เครื่องยนต์ V-Twin 1,037 ซีซี – ทน แรง นุ่ม
หัวใจของ V-STROM 1050 DE คือเครื่องยนต์แบบ V-Twin ขนาด 1,037 ซีซี
-
ให้กำลังสูงสุด 107 แรงม้า และแรงบิด 100 นิวตันเมตร
-
จัดจ้านในย่านกลาง ขี่ทางไกลเร่งแซงมั่นใจ
-
ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมกล่อง ECM ใหม่สำหรับการตอบสนองที่แม่นยำยิ่งขึ้น
-
มาพร้อม ระบบ Quickshifter แบบ 2 ทิศทาง (ขึ้น/ลง) เพิ่มความสนุกในการขับขี่
เครื่องยนต์ V-Twin ของ Suzuki ขึ้นชื่อเรื่องความ “ทนและไม่จุกจิก” ใช้ระยะยาวหายห่วง
โครงสร้างและช่วงล่างพร้อมลุย
Suzuki V-STROM 1050 DE ถูกพัฒนาเพื่อลุยได้มากกว่ารุ่นปกติ:
-
เฟรมอลูมิเนียมแข็งแรง แต่เบา
-
ระบบกันสะเทือนหน้า KYB แบบปรับได้เต็มรูปแบบ (Fully Adjustable)
-
ล้อซี่ลวด 21 นิ้วหน้า / 17 นิ้วหลัง พร้อมยางลุยจากโรงงาน
-
โหมด Gravel Mode และระบบ ABS ที่สามารถปิดล้อหลังได้ สำหรับทางฝุ่น
ความสูงใต้ท้องรถเพิ่มขึ้นกว่ารุ่นธรรมดา ช่วยให้ผ่านเส้นทางทุรกันดารได้ดีขึ้น
เทคโนโลยี S.I.R.S. ครบทุกด้าน
Suzuki จัดระบบช่วยขับขี่ครบในชื่อ Suzuki Intelligent Ride System (S.I.R.S.):
-
โหมดขับขี่ 3 แบบ (A/B/C)
-
ระบบ Traction Control ปรับได้ 3 ระดับ + โหมด Gravel
-
ระบบ Hill Hold Control, Slope Dependent Control, Load Dependent Control
-
Cruise Control สำหรับเดินทางไกล
-
Quickshifter, Engine Brake Control, Low RPM Assist
ทุกระบบควบคุมผ่านหน้าจอ TFT สี ขนาด 5 นิ้ว ที่ชัดเจน ใช้งานง่าย
ดีไซน์และการใช้งานที่สมดุล
V-STROM 1050 DE มาในสไตล์ “Neo-Retro Adventure” ที่ได้แรงบันดาลใจจาก DR-BIG ตำนานสายลุยของ Suzuki
-
ถังน้ำมันขนาด 20 ลิตร ขี่ทางไกลสบาย
-
เบาะนั่งสองตอน นั่งสบายทั้งผู้ขี่และผู้ซ้อน
-
แฟริ่งและการบังลมออกแบบมาให้ป้องกันแรงลมได้ดีในความเร็วสูง
-
ไฟหน้า LED และระบบสตาร์ทแบบ Keyless
ราคาในประเทศไทย
Suzuki V-STROM 1050 DE ปี 2025 วางจำหน่ายในประเทศไทยในราคาเริ่มต้นเพียง 619,000 บาท
ถือเป็นหนึ่งในรถแอดเวนเจอร์คลาส 1000 ซีซี ที่ “คุ้มค่าที่สุด” ณ ตอนนี้
เหมาะกับใคร?
-
ผู้ที่ต้องการรถแอดเวนเจอร์แบบลุยได้จริง แต่ไม่อยากจ่ายหลักล้าน
-
คนที่ชอบเครื่อง V-Twin ฟีลลิ่งแน่นแต่ขี่ง่าย
-
นักเดินทางที่เน้นความประหยัด ค่าดูแลต่ำ ใช้งานได้ยาวนาน
-
มือใหม่สาย ADV ที่อยากได้รถ “จบในคันเดียว”
รุ่นรถ | เครื่องยนต์ (ซีซี) | แรงม้า / แรงบิด | ขนาดยาว×กว้าง×สูง (มม.) | น้ำหนักรถพร้อมขี่ (กก.) | ความจุถัง (ลิตร) |
BMW R 1300 GSA ASA | 2 สูบ Boxer 1,300 cc | 145 hp / 149 Nm | 2,280 x 1,012 x 1,588 | 269 | 30 |
Honda Africa Twin Adventure Sport DCT | 2 สูบเรียง 1,083 cc | 102 hp / 105 Nm | 2,310 x 960 x 1,520 | 254 | 25 |
Triumph Tiger 1200 Rally Explorer | 3 สูบเรียง 1,160 cc | 147 hp / 130 Nm | 2,296 × 982 × 1,547 | 262 | 30 |
Harley‑Davidson Pan America 1250 Special | 2 สูบ V 1,250 cc | 150 hp / 127 Nm | 2,271 × 975 × 812 | 258 | 21 |
Suzuki V‑Strom 1050 DE | 2 สูบ V 1,037 cc | 107 hp / 100 Nm | 2,265 × 940 × 1,465 | 242 | 20 |
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น