เทคนิคเลือกรถไฟฟ้ายังไงให้จบ แบบไม่เจ็บตัวทีหลัง

ใครที่กำลังเล็งรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ ลองอ่านบทความนี้ดูก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อ เพื่อผลประโยชน์ในระยะยาว และจะได้ไม่เจ็บตัวภายหลัง

เช็คลิสต์ 5 ข้อนี้ให้จบ ก่อนเลือกซื้อรถ EV

การตัดสินใจซื้อ รถยนต์ไฟฟ้า สักคันในยุคนี้ ถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่ต้องมองให้รอบด้าน เพราะมันไม่ใช่แค่การเลือกรุ่นที่สวยหรือแรงที่สุด แต่มันคือการเลือกไลฟ์สไตล์ และปัจจัย 6 ที่มีความสำคัญรองลงมาจากสมาร์ทโฟน ซึ่งจะอยู่กับเราไปอีกหลายปี เพื่อเป็นการช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างเฉียบคมและจบแบบไม่เจ็บทีหลัง เลดี้มีคู่มือที่รวบรวมเทคนิคการเลือกรถ EV ที่คุณต้องเช็กให้ครบก่อนจ่ายเงินมาฝากกันค่ะ

1. สำรวจไลฟ์สไตล์ของตัวเอง

ด่านแรกซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ เลือกรถที่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวันของคุณ ไม่ใช้แค่เป็นรถที่แรงที่สุดหรือออกมาใหม่ที่สุด โดยตอบคำถามเหล่านี้กับตัวเองอย่างตรงไปตรงมา

• ขับรถ ไป-กลับ วันละกี่กิโลเมตร? ถ้าขับในเมืองเป็นหลัก วันละไม่เกิน 50-100 กม. รถ EV ที่มีระยะทางวิ่ง 300-400 กม. ก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าคุณต้องวิ่งงานข้ามจังหวัดบ่อยๆ ควรเลือกรุ่นที่วิ่งได้ไกล 500 กม. ขึ้นไปเพื่อความสบายใจ
• เดินทางไกลบ่อยแค่ไหน? หากคุณเป็นสายออกทริปต่างจังหวัดทุกเดือน และมีความกังวลว่าแบตจะหมดกลางทาง คุณต้องเลือกรถที่มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่และศึกษาแผนที่สถานีชาร์จ DC Fast Charge ตามเส้นทางหลักให้ดี
• มีผู้โดยสารกี่คน? ขนของเยอะไหม? เลือก Segment ที่ตรงกับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ถ้าคุณชอบดีไซน์ของรถสปอร์ตซีดาน แต่ครอบครัวคุณมีทั้งหมด 4-5 คน ก็ไม่ตอบโจทย์แล้วมั้ย? สุดท้ายแล้วรถ SUV อาจเป็นคำตอบที่ใช่มากกว่า

2. เข้าใจเรื่องการชาร์จ หัวใจหลักของ EV

การที่จะขับรถยนต์ไฟฟ้าอย่างมีความสุขได้ ต้องจัดการกับเรื่องการชาร์จให้ลงตัว ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมี 2 ส่วนหลักๆ ดังนี้ 

• ติด Wall Charger หรือ Home Charger ที่บ้าน นี่ถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการเริ่มต้น เพราะคุณจะมีแบตเตอรี่เต็ม 100% พร้อมใช้งานทุกเช้า 
• สถานีชาร์จแถวบ้าน หากคุณอยู่คอนโดหรืออพาร์ทเมนท์ คำถามคือ สถานีชาร์จมีจำนวนเยอะมากพอกับความต้องการแถวนั้นมั้ย? ลองเปิดแอปพลิเคชัน อาทิ PEA VOLTA, EA Anywhere, ElexA ดูว่าในเส้นทางที่คุณขับประจำหรือไปบ่อยๆ มีสถานีชาร์จ DC Fast Charge เพียงพอหรือไม่ และเป็นของผู้ให้บริการรายใดบ้าง

3. คำนวณค่าใช้จ่ายแฝงทั้งหมด

เอาล่ะมาถึงประเด็นสำคัญที่หลายคนเจ็บตัว เพราะคุณไปมองแค่ราคารถเพียงอย่างเดียว แต่ลืมคำนวณค่าใช้จ่ายแฝง ที่อาจทำให้คุณขาดทุนสุดๆ ไปเลย

• ค่าประกันภัยชั้น 1 สำหรับในปีแรกอาจจะมีแถมมาให้ แต่ปีต่อๆ ไป คุณจะต้องเตรียมค่าใช้จ่ายหลักหลายหมื่นเอาไว้ ซึ่งโดยปกติแล้วประกันรถยนต์ไฟฟ้ามักจะแพงกว่ารถยนต์สันดาป ดังนั้นควรเช็กเบี้ยประกันของรุ่นที่สนใจ ก่อนตัดสินใจซื้อ
• ค่าบำรุงรักษา แม้จะถูกกว่ารถน้ำมันเพราะไม่มีเครื่องยนต์ แต่ก็ยังมีค่าใช้จ่ายตามระยะ เช่น การเปลี่ยนน้ำยาหล่อเย็นแบตเตอรี่, น้ำมันเบรก, และที่สำคัญคือยาง ซึ่งมักจะสึกหรอเร็วกว่าปกติเนื่องจากแรงบิดและน้ำหนักของรถ
• ค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ในอนาคต แม้จะมีการรับประกันแบตเตอรี่ 8-10 ปี แต่ก็ต้องยอมรับว่านี่คือค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะยาว

4. เช็กระยะทางวิ่งจริง อย่าเชื่อแค่ตัวเลขโฆษณา

ระยะทางวิ่งที่ค่ายรถเคลมเอาไว้ ไม่ว่าจะด้วยมาตรฐาน CLTC, NEDC หรือ WLTP ก็ตาม ซึ่งเป็นค่าทดสอบในห้องปฏิบัติการ แต่การใช้งานจริงจะวิ่งได้น้อยกว่าเสมอ เนื่องด้วยปัจจัยต่างๆ เช่น สไตล์การขับขี่, การเปิดแอร์, และสภาพการจราจร ดังนั้นแล้วคุณจะต้องเอาตัวเลขระยะทางที่ค่ายรถเคลมไว้ มาลบออกประมาณ 15-20% นั่นคือระยะทางวิ่งจริงที่คุณควรคาดหวัง เพื่อการวางแผนการเดินทางที่ไม่พลาด

5. ดูบริการหลังการขาย และความน่าเชื่อถือ

รถยนต์ไฟฟ้า ถือเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่มากๆ สำหรับบ้านเรา ถึงแม้ว่าจะเข้ามาซักระยะแล้ว แต่ก็มีอีกหลายคนที่ยังเข้าไม่ถึง ดังนั้นการเลือกแบรนด์ที่มีบริการหลังการขายที่ดีและน่าเชื่อถือจึงสำคัญอย่างยิ่ง โดยสามารถพิจารณาดังนี้

• ศูนย์บริการมีเยอะไหม? ลองตรวจสอบว่ามีศูนย์บริการที่สามารถซ่อมบำรุงรถ EV ได้ครอบคลุมและอยู่ใกล้บ้านคุณหรือไม่
• ชื่อเสียงของแบรนด์ ลองเข้าไปอ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริงในคลับต่างๆ บน Facebook เพื่อดูว่าแบรนด์ที่คุณสนใจมีปัญหาจุกจิกอะไรบ้าง และศูนย์บริการแก้ไขปัญหาได้ดีแค่ไหน
• ระยะเวลารออะไหล่ สอบถามถึงสต็อกอะไหล่ที่จำเป็น โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับระบบไฟฟ้าและแบตเตอรี่

การเตรียมตัวและหาข้อมูลอย่างดีในวันนี้ คือการลงทุนที่ดีที่สุดเพื่อความสบายใจ และความสุขในการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าไปอีกหลายปีข้างหน้าค่ะ

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน