Fenomeno” สุดยอดรถยนต์รุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นซึ่งผลิตจำนวนจำกัดเพียง 29 คัน พร้อมกับเครื่องยนต์ V12 ที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ของลัมโบร์กินี ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัวเพื่อมอบกำลังเครื่องรวมถึง 1,080 แรงม้า
เปิดตัว Lamborghini Fenomeno ขุมพลัง V12 แรงสุด จำกัด 29 คันทั่วโลก
Fenomeno คือการประกาศเจตนารมณ์แห่งงานดีไซน์ (Design Manifesto) ในแบบฉบับดั้งเดิมของลัมโบร์กินี เพื่อยกระดับองค์ประกอบด้านการออกแบบอันโดดเด่นของแบรนด์ให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น ซึ่งนอกจากงานดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์และระบบอากาศพลศาสตร์ที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะ
ข้อมูลทางเทคนิค Fenomeno 2025
ขนาดตัวรถ
- ความยาว: 5014 มม.
- ความกว้าง: 2076 มม.
- ความสูง: 1161 มม.
- ฐานล้อ: 2779 มม.
เบรก
- หน้า: 420x40 มม.
- หลัง: 410x32 มม.
ระบบส่งกำลัง
- เครื่องยนต์ (ICE + BEV)
- ปริมาตรกระบอกสูบ: 6498 ลบ.ซม.
- กระบอกสูบและช่วงชัก: 95 x 76.4 มม.
- กำลังสูงสุด (รอบต่อนาที) (ICE): 835 แรงม้า ที่ 9250 รอบต่อนาที
- กำลังสูงสุด (รวม ICE + EE): 1.080 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด (ICE): 725 นิวตันเมตร ที่ 6750 รอบต่อนาที
- กำลังขับเฉพาะ: 128 แรงม้า/ลิตร
- รอบสูงสุด: 9500 รอบต่อนาที
- อัตราส่วนกำลังอัด: 12.6:1
- ระบบส่งกำลังและกระปุกเกียร์
- กระปุกเกียร์แบบคลัตช์คู่ 8 สปีด
สมรรถนะ
- ความเร็วสูงสุด: มากกว่า 350 กม./ชม.
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.4 วินาที
- อัตราเร่ง 0-200 กม./ชม.: 6.7 วินาที
- ระยะเบรก 100-0 กม./ชม.: 30 ม.
- อัตราส่วนน้ำหนักแห้ง/กำลัง: 1.64 กก./แรงม้า
ขุมพลัง Fenomeno 2025
Fenomeno ยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ V12 ที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ของลัมโบร์กินี ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัวเพื่อมอบกำลังเครื่องรวมถึง 1,080 แรงม้า โดยเครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.5 ลิตร แบบดูดอากาศเข้าตามธรรมชาติให้กำลังเครื่องสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 835 แรงม้าและมอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 3 ตัวจะให้กำลังสูงสุด 245 แรงม้า ทำให้ Fenomeno คือนิยามแห่งขุมพลังที่สูงเกินขีดจำกัดซึ่งยังไม่เคยปรากฏมาก่อน ผู้ขับขี่ยังจะได้สัมผัสกับโซลูชันทางเทคนิคขั้นสูงที่ติดตั้งมาในลัมโบร์กินีเป็นครั้งแรก อาทิ เซ็นเซอร์ 6D และระบบเบรกคาร์บอนเซรามิก CCM-R Plus
ประกอบกับกำลังเครื่องยนต์ที่เหนือล้ำ ทำให้ Fenomeno เป็นรถยนต์ลัมโบร์กินีที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.4 วินาที และจาก 0-200 กม./ชม. เพียง 6.7 วินาทีเท่านั้น โดยสามารถทำความเร็วสูงสุดมากกว่า 350 กม./ชม. ทั้งยังมีอัตราส่วนน้ำหนักต่อแรงม้าที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของลัมโบร์กินีที่ 1.64 กก./แรงม้า
ดีไซน์ Fenomeno 2025
Design Manifesto ฉบับใหม่ ด้วยแนวคิดที่เหนือความคาดหมายและความหรูหราขั้นสุดของซูเปอร์สปอร์ตคาร์แบบลองเทล แฝงไว้ด้วยดีเอ็นเอการออกแบบอันโดดเด่นและตราตรึงใจอย่างไม่สิ้นสุด หากยังคงสัมผัสที่สดใหม่และเร้าใจอยู่เสมอ หัวใจสำคัญของจิตวิญญาณแบบอิตาเลียนเกิดจากการใช้รูปทรงเส้นสายที่ให้ความสำคัญกับเส้นแกนกลาง รวมถึงสถาปัตยกรรมสุดล้ำของห้องโดยสาร และรูปลักษณ์อันล้ำสมัยในทุกมุมมอง โดยมีการลดทอนเส้นสาย หากยังคงความบริสุทธิ์ประณีตและพื้นผิวสมรรถนะสูงที่ดูสะอาดตา ทุกเส้นสายล้วนผสานรวมฟังก์ชันการใช้งานขั้นสูงสุด เข้ากับความบริสุทธิ์ทางสุนทรียศาสตร์ขั้นสุดยอด และนี่จุดบรรจบกันแห่งงานออกแบบและสมรรถนะรถยนต์อย่างแท้จริง
เจตนารมณ์นี้นำเสนอแนวคิดการผสานดีเอ็นเอในงานออกแบบอันโดดเด่นของลัมโบร์กินี เข้ากับเส้นสายที่เรียบง่าย แต่ยังคงความประณีตและพื้นผิวสมรรถนะสูงที่โปร่งสบายตา สะท้อนสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ระดับไอคอนิกของแบรนด์อิตาลี โดยทุกเส้นสายล้วนผสานรวมฟังก์ชันการใช้งานขั้นสูงเข้ากับสุนทรียศาสตร์ขั้นสุดยอด สร้างจุดบรรจบแห่งงานออกแบบและสมรรถนะรถยนต์
การเปิดตัว Fenomeno ยังถือเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปีของศูนย์ออกแบบลัมโบร์กินี เซนโทร สไตล์ (Lamborghini Centro Stile) ซึ่งเปิดอย่างเป็นทางการในปี 2005 และนับแต่นั้นเป็นต้นมา ศูนย์แห่งนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางแห่งความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบซูเปอร์สปอร์ตคาร์ของแบรนด์
ตัวรถด้านหน้าโดดเด่นสะดุดตาด้วยรูปทรงที่เพรียวบางและกระชับเข้ากับพื้นผิวขนาดใหญ่แนวสปอร์ต ฝากระโปรงหน้ามีช่องอากาศเข้าขนาดใหญ่สองช่องที่มีแรงบันดาลใจมาจากรถแข่งลัมโบร์กินีอย่าง Huracán GT3 ขณะที่ไฟ DRL สไตล์ซิกเนเจอร์ดั้งเดิมก็สะท้อนถึงส่วนเขาของกระทิงในโลโก้ลัมโบร์กินี โดยโลโก้ลัมโบร์กินีแบบใหม่ซึ่งได้เผยโฉมไปเมื่อปี 2024 ที่ผ่านมา ก็ได้เปิดตัวบนรถซูเปอร์สปอร์ตจากโรงงานซัง'อกาตา โบโลนเญส ในรุ่นนี้ โดยเสริมความโดดเด่นให้กับด้านหน้าของตัวรถที่ผสานองค์ประกอบต่าง ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของลัมโบร์กินีไว้ด้วยกัน เช่น รูปทรงตัว Y ที่ประกอบเข้ากับสปลิตเตอร์ด้านหน้าที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์อย่างลงตัว รวมถึงดีไซน์อันเฉียบคมของชุดไฟ
มุมมองด้านข้างสะท้อนภาพลักษณ์ของลัมโบร์กินีในแบบฉบับดั้งเดิม ผ่านเส้นสายเชิงเดี่ยวที่เน้นรูปทรงของตัวรถตั้งแต่ปลายฝากระโปรงหน้าจรดส่วนท้าย ซึ่งได้แรงบันดาลใจจาก “ดีไซน์ลองเทล (Long tail)” ของรุ่น Essenza SCV12 การเลือกโทนสีของชุดตกแต่งเน้นย้ำถึงความแข็งแกร่งของตัวรถส่วนบน ซึ่งตัดกันอย่างสง่างามกับเทคนิคการออกแบบด้านอากาศพลศาสตร์อย่างมีสไตล์ในส่วนล่างของตัวรถ ซึ่งติดตั้งครีบคาร์บอนไฟเบอร์ของรุ่นรถแข่งเพื่อเสริมแรงด้านอากาศพลศาสตร์ เช่นเดียวกับการออกแบบซุ้มล้อ
ดีไซน์ประตูแบบใหม่ก็มีบทบาทสำคัญในด้านอากาศพลศาสตร์ โดยช่วยนำอากาศไหลเข้าสู่ช่องรับอากาศขนาดใหญ่ด้านข้าง ทำให้มั่นใจได้ถึงการระบายความร้อนของชิ้นส่วนต่างๆ ในห้องเครื่องยนต์และการทำงานที่เหมาะสมของหม้อน้ำ นอกจากนี้ยังมีการดีไซน์ท่อ NACA แบบใหม่ ซึ่งมีส่วนทำให้ดีไซน์ของลัมโบร์กินีโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มาอย่างเนิ่นนาน นับตั้งแต่ Countach รุ่นแรก ผลลัพธ์ที่ได้คือประสิทธิภาพการระบายความร้อนด้านข้างที่ดีขึ้นกว่าเดิม 30% เมื่อเปรียบเทียบกับ Lamborghini V12 รุ่นผลิตทั่วไป
ภายใน Fenomeno 2025
ภายในห้องโดยสารสะท้อนถึงแนวคิดไฮเปอร์ดีไซน์ นำเสนอการตีความใหม่ตามปรัชญา “Feel like a pilot” ของลัมโบร์กินี เพื่อสร้างความเชื่อมโยงกับตัวรถอย่างลึกซึ้งมากขึ้นทั้งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร การวางตำแหน่งผู้ขับและพวงมาลัยสไตล์รถแข่งจะมอบประสบการณ์การขับขี่สุดประทับใจ พร้อมจอแสดงผลดิจิทัล 3 จอ ซึ่งไม่เพียงแต่ตอบโจทย์แนวมินิมอลลิสต์ได้อย่างมีสไตล์เท่านั้น แต่ยังตัดปุ่มควบคุมส่วนใหญ่ออกไป เพื่อให้ผู้ขับขี่มีสมาธิกับท้องถนนหรือสนามแข่งขันได้อย่างเต็มที่ เสมือนกำลังขับขี่รถแข่งของจริง
Fenomeno ยกระดับศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนาของลัมโบร์กินีในเรื่องวัสดุน้ำหนักเบาพิเศษให้ถึงขีดสุด โดยใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เป็นวัสดุหลักในห้องโดยสาร เริ่มจากคอนโซลกลางที่ติดตั้งแผ่นรองแบบสปอร์ต ไปจนถึงแผงประตูและเบาะนั่งแบบสปอร์ตซึ่งได้รับการออกแบบมาเฉพาะรุ่น Fenomeno เท่านั้น เช่นเดียวกับช่องระบายอากาศบนแผงหน้าปัดที่ใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์และผลิตด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์แบบ 3 มิติ ระบบไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารช่วยเน้นรูปทรงที่เหมือนยานอวกาศ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่พิเศษยิ่งขึ้น
ลูกค้ายังสามารถเลือกการปรับแต่งที่เหนือระดับเพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับ Fenomeno ของตนเอง ด้วยโปรแกรม Lamborghini Ad Personam ซึ่งมอบตัวเลือกโทนสีที่แทบจะไร้ขีดจำกัด ทั้งสำหรับตัวถังและภายในห้องโดยสาร ซึ่งสามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้ด้วยตัวเลือกวัสดุหุ้มเบาะอีกมากมาย
การปรับแต่งทั้งหมดจะช่วยให้รถดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างแท้จริง ผ่านการเลือกโทนสีภายนอกมากกว่า 400 สี และตัวเลือกการตกแต่งภายในที่มากมายไม่รู้จบ โดยลูกค้าสามารถกำหนดทุกอย่างได้เอง พร้อมบริการระดับเอ็กซ์คลูซีฟแบบเป็นส่วนตัวที่สตูดิโอ Lamborghini Ad Personam ในซัง'อกาตา
ระบบเบรกและระบบกันสะเทือน
เมื่อสร้างกำลังเครื่องยนต์และสมรรถนะที่เพิ่มสูงขึ้น จึงจำเป็นต้องออกแบบระบบเบรกใหม่ทั้งหมด เพื่อให้มั่นใจได้ถึงความแข็งแกร่งและความทนทานในระดับที่จำเป็น โดยยังต้องรักษาเสถียรภาพในการเบรกที่ยอดเยี่ยม ซึ่ง Fenomeno ใช้ระบบเบรกคาร์บอนเซรามิก CCM-R Plus ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งคล้ายกับเทคโนโลยีเบรก LMDh ที่ใช้ในรถแข่ง เช่นรุ่น SC63 เพื่อนำสมรรถนะจากสนามแข่งมาสู่ท้องถนน
ดิสก์เบรกผลิตขึ้นด้วยโครงสร้าง 3 มิติ โดยผสานคาร์บอนไฟเบอร์เส้นยาวในคาร์บอนเมทริกซ์ และเคลือบสารที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษเฉพาะโครงการนี้ ซึ่งไม่เพียงช่วยยืดอายุการใช้งานของดิสก์เบรกเท่านั้น แต่ยังเพิ่มค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน สร้างเสถียรภาพสูงสุดในการเบรก รวมถึงความทนทานและความมั่นใจ ทั้งยังทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ พร้อมความสม่ำเสมอและความมั่นคงของการตอบสนองอย่างเหนือชั้นในทุกสภาวะ ระบบนี้ได้รับการยกระดับผ่านการออกแบบที่พิถีพิถันภายใต้แนวคิดการควบคุมอุณหภูมิของรถยนต์ด้วยอากาศทั้งหมด (Entire aerothermal concept) โดยเพิ่มการไหลเวียนของอากาศไปยังดิสก์เบรกและคาลิปเปอร์ เพื่อประสิทธิภาพการระบายความร้อนที่ดีที่สุด
และเพื่อมอบพลวัตการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบและการันตีความสนุกสูงสุดในการขับขี่ Fenomeno จึงเลือกใช้โช้กอัปสำหรับรถแข่งขันที่สามารถปรับเทียบระดับได้ด้วยตนเอง เพื่อให้ได้ระยะและการตั้งค่าที่สมบูรณ์แบบสำหรับแต่ละสนามแข่งและลักษณะการใช้งาน
ยางรถยนต์ Fenomeno 2025
บริดจสโตน (Bridgestone) ผู้นำระดับโลกด้านยางเกรดพรีเมียมและโซลูชันเพื่อการขับเคลื่อนที่ยั่งยืน ถือเป็นพันธมิตรด้านยางรถยนต์แต่เพียงผู้เดียวของรถยนต์ Fenomeno โดยติดตั้งยางระดับพรีเมียมรุ่น Bridgestone Potenza ที่ออกแบบโดยเฉพาะสำหรับซูเปอร์สปอร์ตคาร์รุ่นใหม่นี้
Lamborghini Fenomeno จะมาพร้อมชุดแต่งดีไซน์เฉพาะสำหรับรถแข่ง เพื่อถ่ายทอดสมรรถนะจากสนามแข่งขันโดยผ่านการรับรองการใช้งานบนถนนสาธารณะ เพื่อการแสดงสมรรถนะได้อย่างเต็มที่
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
- รถยนต์ใหม่จ่อคิวเปิดตัวในไทยครึ่งปีหลัง 2568 คึกคักทุกเซกเมนต์
- ดีไซน์ NEW Toyota Hilux TRAVO ก่อนเปิดตัวเป็นทางการปลายปี
- TOYOTA เร่งเครื่องแบรนด์ GR เต็มสูบ! ประกาศเสริมทัพ 2 รุ่นใหม่ เขย่าตลาดไทยปี 2568
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น