ฮอนด้า เผยไฮไลต์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีแห่งการขับเคลื่อน ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ที่สร้างสรรค์จากพลังแห่งความฝันของฮอนด้าณ งาน Japan Mobility Show 2025
Japan Mobility Show 2025
บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ประกาศไลน์อัปผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทั้ง รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เครื่องยนต์อเนกประสงค์ (Power Products) และอากาศยาน รวมถึงเทคโนโลยีและรถต้นแบบต่างๆ ที่เตรียมจัดแสดง ณ บูทฮอนด้า ในงาน Japan Mobility Show 2025 วันที่ 31 ตุลาคม 2568 - 9 พฤศจิกายน 2568

■ ฮอนด้าเตรียมจัดแสดงผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีแห่งการขับเคลื่อนครบวงจร ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ที่สร้างสรรค์จากพลังแห่งความฝันของฮอนด้า

ในงาน Japan Mobility Show 2025 ฮอนด้าเตรียมจัดแสดงผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีแห่งการขับเคลื่อนที่หลากหลาย ทั้งทางบก ได้แก่ รถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมถึงทางทะเลและทางอากาศ ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดจากการความฝันของฮอนด้าที่พัฒนาให้กลายเป็นจริงด้วยการใช้เทคโนโลยีอันล้ำสมัยล่าสุดของฮอนด้า



ไฮไลต์สำคัญที่จะจัดแสดงในปีนี้ ประกอบด้วยรถยนต์ไฟฟ้า Honda 0 Series ที่มีแผนเปิดตัวทั่วโลกในปี 2026 รวมถึงรถยนต์และรถจักรยานยนต์รุ่นที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน นอกจากนี้ ฮอนด้าจะนำแบบจำลองเท่าขนาดจริงภายในห้องโดยสารของ HondaJet Elite II เครื่องบินเจ็ตธุรกิจขนาดเล็ก มาจัดแสดงอีกครั้ง เพื่อให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสกับความกว้างขวางภายในห้องโดยสารของ Honda Jet ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในงาน Japan Mobility Show 2023 ที่ผ่านมา
■ รถยนต์ซีดานไฟฟ้าต้นแบบ ฮอนด้า ซีโร่ ซาลูน (Honda 0 Saloon Prototype) – เปิดตัวครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น


รถยนต์ซีดานไฟฟ้าต้นแบบ ฮอนด้า ซีโร่ ซาลูน ซึ่งเป็น Flagship Model ของซีรีส์ฯ พัฒนาขึ้นจากการออกแบบโครงสร้างตัวรถสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยเฉพาะ มาพร้อมเทคโนโลยีแห่งอนาคต ที่สะท้อนแนวคิด “Thin, Light and Wise” (บาง เบา และชาญฉลาด) ของ Honda 0 Series ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
■ ฮอนด้า ซีโร่ เอสยูวี รถต้นแบบ SUV ไฟฟ้าขนาดกลาง (Honda 0 SUV Prototype) – เปิดตัวครั้งแรกในญี่ปุ่น

ฮอนด้า ซีโร่ เอสยูวี รถต้นแบบ SUV ไฟฟ้าขนาดกลาง ที่นับเป็นรุ่นแรกภายใต้ Honda 0 Series ที่จะเปิดตัวเข้าสู่ตลาด ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด “Thin, Light and Wise” (บาง เบา และชาญฉลาด) โดยมาพร้อมพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่โปร่งโล่ง ทัศนวิสัยกว้างขวาง และโดดเด่นด้วยพื้นที่การใช้งานที่ยืดหยุ่น
■ CUV e: – รุ่นการผลิตจริง

Honda CUV e: คือ รถจักรยานยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นที่ 2 ของแบรนด์ โดยมีการติดตั้งแบตเตอรี่ Honda Mobile Power Pack e: ซึ่งเป็นแบตเตอรี่แบบสับเปลี่ยนได้ (Swappable Battery) ไม่ต้องเสียเวลารอชาร์จ เพื่อให้การเดินทางของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้น
■ Rebel 1100 S Edition Dual Clutch Transmission – รุ่นการผลิตจริง
Honda Rebel 1100 รถครุยเซอร์รุ่นใหญ่สุดที่มาพร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบคลัตช์คู่ (Dual Clutch Transmission)

■ HondaJet Elite II – ห้องโดยสารจำลองเท่าขนาดจริง
HondaJet Elite II เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวขนาดเล็กที่ยกระดับประสบการณ์การเป็นเจ้าของและความสะดวกสบายไปอีกขั้น โดดเด่นด้วยสมรรถนะที่เหนือกว่า HondaJet Elite โดยได้รับการพัฒนาด้านการออกแบบและผสานเข้ากับฟังก์ชันการใช้งานอย่างสมบูรณ์แบบ
■ Honda BF350 เครื่องยนต์เรือขนาดใหญ่ – รุ่นการผลิตจริง
Honda BF350 เป็นแฟลกชิปเครื่องยนต์เรือของฮอนด้า ผสานพลังขับเคลื่อนสูงเข้ากับความประหยัดน้ำมัน พร้อมดีไซน์ที่เรียบง่ายและสะอาดตา เหมาะกับเรือทุกประเภท

Mobility Culture Program – สัมผัสความตื่นเต้นจากผลิตภัณฑ์ด้านการขับเคลื่อน
Mobility Culture เป็นกิจกรรมพิเศษในงาน Japan Mobility Show มุ่งเน้นการนำเสนอเรื่องราวเบื้องหลังของผลิตภัณฑ์ด้านการขับเคลื่อนที่มีหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่มีความเกี่ยวข้องและผูกพันกับชีวิตประจำวันของผู้คนมาอย่างยาวนาน และสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้คนได้อย่างต่อเนื่อง
ในงานนี้ฮอนด้าเตรียมจัดแสดงรถยนต์ในตำนานอย่าง McLaren Honda MP4/4 ซึ่งสร้างสถิติในการคว้าชัยชนะสูงสุดถึง 15 ครั้ง จากทั้งหมด 16 สนาม ในการแข่งขันรถยนต์สูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก FIA*2 Formula One (F1) พร้อมคว้าแชมป์ทั้งประเภทผู้ผลิต (Constructors) และประเภทนักแข่ง (Drivers) ในปี 1998 อีกทั้งจัดแสดงร่วมกับรถจักรยานยนต์หลายรุ่น ได้แก่ NSR500 ที่คว้าแชมป์ในรุ่น 500 ซีซี ในการแข่งขัน FIM*3 Road Racing World Championship Grand Prix ในปี 1994
นอกจากภายในงานแล้วความพิเศษ ในการโชว์นวัตกรรม ทางประธานฮอนด้าก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางในประเทศไทย
ฮอนด้า ยอมรับว่า การมาของรถไฟฟ้าจีนที่มีความพร้อมหลายๆด้าน ทั้งออฟชั่น หน้าตาม ราคาซึ่งสามารถแย่งตลาดรถญี่ปุ่นได้ ทำให้ตลาดรถญี่ปุ่นเสียส่วนแบ่งทางการตลาด
การที่จะทำให้ฮอนด้ากลับมาสู้ในตลาดได้นั้น ต้องมี 3 ปัจจัยหลัก คือ
1.ออพชัน
2.ราคา
3.ดีไซน์
ปัจจุบันฮอนด้า กำลังพัฒนา EV ที่ราคาเข้าถึงได้ง่าย พร้อมแบตเตอรี่เจเนอเรชันใหม่ทำให้รถวิ่งไกลขึ้น ทนขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้สามารถใช้รถไฟฟ้าได้นานขึ้น ทำให้ราคาขายต่อดีอีกด้วย พร้อมทั้งพัฒนาระบบช่วยเหลือการขับขี่ ADAS รุ่นใหม่ ให้ดียิ่งกว่าเดิม นั้นคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้สามารถแย่งตลาดกลับมาได้
โทชิฮิโระ มิเบะ ซีอีโอ ฮอนด้า มอเตอร์ ยืนยัน EV ตระกูล 0 Series จะเข้ามาทำตลาดในไทยแน่ๆ 2 รุ่นคือ Honda 0 SUV และ Honda 0 α (ซีโร่ อัลฟ่า) โดยยังไม่เผยช่วงเวลาเปิดตัว แต่คาดว่าจะมาหลังปี 2026
ขณะเดียวกัน ยังเตรียมความพร้อมในการพัฒนาทุก Powertrain ทั้ง EV PHEV FCEV และ Flex Fuel พลังงานทางเลือก รวมถึงระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ADAS
ฮอนด้า ขอเวลา 5 ปี กลับมาผงาดอีกครั้ง
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น