Honda CB1000F รถสไตล์เรโทรสมรรถนะสูงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างแท้จริง ที่ยังคงควบคุมง่าย และตอบโจทย์ครบทุกด้าน ด้วยดีไซน์ที่ชวนให้นึกถึงอดีต อุปกรณ์ระดับพรีเมียม และสมรรถนะที่ดุดัน
Honda CB1000F
Honda CB1000F รถที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่นตำนานแห่งวงการมอเตอร์สปอร์ต โดดเด่นด้วยเส้นสายที่เรียบเฉียบและกราฟิกสุดเท่ที่สะท้อนจิตวิญญาณยุค 1980 อย่างชัดเจน

พื้นฐานของรุ่นนี้มาจากแพลตฟอร์ม CB1000 Hornet ที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างสูง แต่เครื่องยนต์สี่สูบเรียงได้รับการปรับจูนใหม่ทั้งหมด เพื่อเน้นแรงบิดช่วงล่างและช่วงกลาง ให้คาแรกเตอร์การขับขี่ที่หนักแน่นเป็นเอกลักษณ์


ความเป็นมา CB1000F
สำหรับ Honda ตัวอักษร CB มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 65 ปี ย้อนไปถึงปี 1959 กับรุ่น CB92 Benly ซึ่งเปิดตัวในปีเดียวกับที่ Honda เริ่มเข้าร่วมการแข่งขัน TT โดย Benly คือ “ซูเปอร์สปอร์ตไบค์” ของ Honda ที่มาพร้อมดีไซน์สะอาดตา ท่านั่งแบบสปอร์ต เครื่องยนต์กระฉับกระเฉงพร้อมเสียงเร้าใจ และการควบคุมที่เฉียบคม — เทมเพลตความเป็น CB ที่ยังคงชัดเจนมาจนถึงปัจจุบัน
รุ่น CB แต่ละยุคได้กำหนดมาตรฐานสมรรถนะของยุคนั้นๆ และสำหรับปี 2026 Honda ได้เปิดตัว CB รุ่นใหม่ล่าสุด

CB1000F ได้แรงบันดาลใจจาก CB750F แห่งยุค 1980s รถระดับตำนานที่พา Freddie Spencer สู่ชัยชนะในศึก AMA อเมริกาอันสุดดุเดือด และนำความสนุกล้วนๆ ของการขับขี่มาห่อหุ้มไว้ในแพคเกจแบบเรโทรสุดเท่ พร้อมเอกลักษณ์แบบเครื่องยนต์ 4 สูบเรียงที่ทรงเสน่ห์
รถรุ่นนี้ถูกสร้างบนแพลตฟอร์ม CB1000 Hornet และสวมชื่อรหัส F รุ่นใหม่ พร้อมอุปกรณ์พรีเมียมและศักยภาพการขับขี่ที่ครอบคลุมกว่าเดิม เพื่อมอบความสนุกตั้งแต่การขี่ในเมืองไปจนถึงการท่องบนเส้นทางไกล
พัฒนาตามคอนเซปต์การสร้าง “Best Balanced Roadster” CB1000F มีความคล่องตัวแบบรถระดับกลางน้ำหนัก แต่ยังให้ความรู้สึกดุดันแบบบิ๊กไบค์เต็มขั้น และในยุคที่แฟชั่น เพลง และสไตล์ยุค 80 กำลังกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ CB1000F จึงเป็นรถที่ “พร้อมสำหรับยุคนี้อย่างแท้จริง”

CB1000F ยกระดับจากพื้นฐานของ CB1000 Hornet สายสตรีทไฟเตอร์ (ซึ่งเครื่องยนต์ ช่วงล่าง และความคุ้มค่าของมันได้ยกระดับมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดเน็กเก็ตไบค์อย่างสมบูรณ์) และต่อยอดจากจุดแข็งร่วมกันหลายอย่างเพื่อสร้างคาแรกเตอร์และตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง

อันดับแรกคือ เครื่องยนต์ ซึ่งเป็นหัวใจของรถมอเตอร์ไซค์ทุกคัน ทีมวิศวกร Honda ได้ปรับแต่งเสียงและฟีลลิ่งให้มีเอกลักษณ์แบบไม่เหมือนใครบนเครื่องยนต์ 4 สูบ 1,000 ซีซี ผ่านการปรับระบบไอดี แคมชาฟต์ และท่อไอเสีย
กำลังของเครื่องยนต์ถูกจูนให้มาในรอบต่ำและกลางมากขึ้น โดยกำลังสูงสุดอยู่ที่ 91 kW @ 9,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 103 Nm @ 8,000 รอบ/นาที เพื่อให้แรงดึงช่วงต้นและกลางจัดจ้านกว่าเดิม พร้อมอัตราทดเกียร์ที่ออกแบบให้เร่งดีที่ความเร็วต่ำและครุยส์สบายที่ความเร็วสูง



ถัดมาคือ งานดีไซน์ แน่นอน รถรุ่นนี้สะท้อนเสน่ห์ยุค 80s อย่างแท้จริง — ทศวรรษที่กำลังกลับมามีอิทธิพลอย่างมากอีกครั้งในโลกดนตรี แฟชั่น และไลฟ์สไตล์
ดีไซน์ CB1000F ถูกเน้นให้เรียบและตรงประเด็น โดยมีเส้นสายตัวรถที่ไหลลื่นจากถังน้ำมัน ผ่านครอบข้างและเบาะ ไปจนถึงครอบท้าย โคมไฟหน้าทรงกลมคู่กับแตรคู่วางด้านข้าง และลวดลายกราฟิกบนถังและฝาข้างได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่ง AMA แฮนด์สูงของ Freddie Spencer
เฟรมเหล็กแบบ Diamond Frame ถูกใช้เป็นองค์ประกอบงานดีไซน์ พร้อมซับเฟรมใหม่ที่ออกแบบเพื่อให้พื้นที่เบาะมากขึ้น








ระบบกันสะเทือนใช้โช้คหน้า Showa SFF-BP USD ขนาด 41 มม. และโช้คหลัง Showa พร้อมระบบ Pro-Link ปรับตั้งพิเศษ เพื่อมอบความนุ่มนวลและการควบคุมที่ยอดเยี่ยม คาลิเปอร์หน้า 4 พอตเรเดียลเมาท์ พร้อมการจูนเฉพาะรุ่น ทำงานร่วมกับจานเบรก 310 มม. แบบลอยตัว ล้ออะลูมิเนียมหล่อขนาด 120/70-ZR17 หน้า และ 180/55-ZR17 หลัง

ระบบควบคุมการขับขี่ถูกยกระดับด้วย IMU 6 แกน ที่ทำหน้าที่เป็นแกนหลักของระบบควบคุมทั้งหมด ระบบ Throttle By Wire (TBW) มีโหมดขับขี่ให้เลือก 3 โหมด ปรับพลังเครื่องยนต์ เอนจิ้นเบรก ระบบกันล้อหน้ายก และระบบ HSTC (Honda Selectable Torque Control) พร้อมโหมด USER สำหรับการตั้งค่าตามต้องการ

หน้าจอ TFT ขนาด 5 นิ้ว แบบ Optically Bonded ให้การมองเห็นชัดแม้แสงจ้า ใช้งานง่าย และรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Honda RoadSync ควบคุมผ่านสวิตช์ที่แฮนด์ซ้าย

ระบบกุญแจอัจฉริยะ Honda Smart Key

CB1000F เครื่องยนต์
Honda CB1000F ใช้เครื่องยนต์ของ CBR1000RR Fireblade รุ่นปี 2017 เป็นเครื่อง 4 สูบเรียง DOHC ความจุ 1000 ซีซี ได้รับการปรับจูนเฉพาะสำหรับบทบาทในฐานะโรดสเตอร์ใหม่ เพื่อให้ได้ฟีลแรงบิดจัด มีคาแรกเตอร์ชัดเจนในรอบต่ำ ส่งกำลังกำลังกลางที่เรียบลื่น และพละกำลังปลายที่ใช้งานได้ง่าย
เครื่องยนต์มีขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชัก 76 x 55.1 มม. อัตราส่วนกำลังอัด 11.7:1 ให้กำลังสูงสุด 91 kW @ 9,000 รอบ/นาทีและแรงบิดสูงสุด 103 Nm @ 8,000 รอบ/นาที
เมื่อเทียบกับ Hornet ที่ให้กำลัง 111.6 kW @ 11,000 รอบ/นาที / 104 Nm @ 9,000 รอบ/นาที นี่คือความแตกต่างที่ตั้งใจทำอย่างชัดเจน เพราะในขณะที่ Hornet มาในสไตล์สตรีทไฟเตอร์ที่แรงรอบปลายเร้าใจ CB1000F กลับเน้นสมรรถนะที่เน้นการใช้งานรอบต่ำถึงกลาง เพื่อมอบความสนุกในการขี่ในทุกสภาพเส้นทางโดยไม่ต้องดันรอบถึงเรดไลน์

มีการพัฒนาเครื่องยนต์หลายส่วนเพื่อสร้างคาแรกเตอร์ใหม่นี้ แคมชาฟต์ฝั่งไอดีและไอเสียถูกปรับใหม่ รวมถึงสเปกทางเดินอากาศฝั่งไอดีที่ได้รับการจูน เพื่อให้ CB1000F มีเสียงเครื่องยนต์สี่สูบที่เป็นเอกลักษณ์และให้ฟีลการขับขี่ที่สมดุลและสนุกในทุกช่วงความเร็วรอบ
ระบบไอดีถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด เพื่อประสิทธิภาพรอบต่ำถึงกลางและการตอบสนองคันเร่งที่ดีขึ้นในช่วงต่ำกว่า 6,000 รอบ/นาที ความยาวท่อไอดีเพิ่มขึ้น 50 มม. เป็น 140 มม. พร้อมเส้นผ่านศูนย์กลางใหม่ 36 มม. (จากเดิม 42 มม.)
ขนาดปากท่อไอดีต่างกันระหว่างคู่ขวาและคู่ซ้าย:
-
ฝั่งขวา: 40 มม.
-
ฝั่งซ้าย: 50 มม.
เพื่อสร้างเสียง "สั่นพัลวัน" เมื่อเปิดคันเร่ง โดยกล่องอากาศถูกปรับให้เรียบลื่นขึ้นรับกับรูปทรงถังน้ำมัน เพื่อให้ได้ปริมาตรอากาศสูงสุดและลดแรงต้านทางเดินอากาศ

ระบบไอเสียแบบ 4-2-1 ช่วยสร้างโทนเสียงนุ่มลึกในรอบต้นและกลาง พร้อมเสียงเร้าใจในรอบสูง ปลายท่อแบบสามห้องสไตล์ "เมกาโฟน" ที่เข้ากับยุคสมัยรถ ได้รับการออกแบบให้ทำงานร่วมกับระบบไอดีและแคมชาฟต์แบบใหม่
ระบบส่งกำลังถูกปรับด้วยเช่นกัน เกียร์หนึ่งและสองใช้การทดที่ต่ำลง เพื่อให้ตอบสนองและเร่งดีขึ้นในความเร็วต่ำ ส่วนเกียร์สามถึงหกใช้การทดที่สูงขึ้น เพื่อความสบายในการขี่ทางไกลรอบเครื่องต่ำ เมื่อขี่ที่ 100 กม./ชม. ในเกียร์หก เครื่องยนต์หมุนที่ 4,000 รอบ/นาที (เทียบกับ Hornet ที่ 4,300 รอบ/นาที)
คลัตช์แบบ Assist/Slipper ช่วยลดแรงกดคันคลัตช์ ลดอาการล้า และควบคุมแรงสะท้านของล้อหลังเมื่อเชนจ์เกียร์ลงแรง ๆ พร้อมเบรกหนัก
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 5.6 ลิตร / 100 กม. ถังน้ำมันจุ 16 ลิตร ให้ระยะทางวิ่งกว่า 280 กม. ต่อการเติมหนึ่งครั้ง

ระบบควบคุมด้วย Throttle By Wire (TBW) และ IMU แบบ 6 แกน คือหัวใจสำคัญของชุดอิเล็กทรอนิกส์ใน CB1000Fโดยระบบ TBW ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมเครื่องยนต์ได้สูงสุดผ่านโหมดขับขี่ 3 โหมดมาตรฐาน ที่มีการตั้งค่าล่วงหน้าของกำลังเครื่องยนต์ (Engine Power), เอนจิ้นเบรก (Engine Brake) และระบบ HSTC (Honda Selectable Torque Control) รวมถึงโหมด USER อีก 2 โหมดที่สามารถตั้งค่าตามความต้องการของผู้ขับได้เอง
การเลือกโหมดทำได้ผ่านสวิตช์ที่แฮนด์ซ้ายและแสดงผลบนหน้าจอ TFT
มีระดับการตั้งค่าสำหรับ Power และ Engine Brake ตั้งแต่ระดับ 1-3 โดยระดับ 3 คือระดับสูงสุด และ HSTC ก็มี 3 ระดับ เช่นกัน โดยแต่ละระดับถูกปรับแต่งให้ทำงานร่วมกับข้อมูลป้อนกลับแบบเรียลไทม์จาก IMU (องศาและอัตราการเคลื่อนที่แบบหมุนและเอียงของตัวรถ) ระดับ 3 คือการแทรกแซงสูงสุด ไฟแสดงบนหน้าปัดจะติดขึ้นเมื่อระบบ HSTC ทำงาน และผู้ขับขี่สามารถปิดระบบได้หากต้องการ
โหมด STANDARD
ใช้ค่าระดับกลางสำหรับ Power, HSTC และ Engine Brake ถูกออกแบบให้ให้ความรู้สึกคล้ายเครื่องคาร์บูเรเตอร์ ให้ฟีลลิ่งผ่อนคลายและเป็นธรรมชาติ
โหมด SPORT
ใช้กำลังเครื่องยนต์สูงสุด พร้อมลด Engine Brake และ HSTC เพื่อให้สมรรถนะสไตล์บิ๊กไบค์เต็มรูปแบบ พร้อมการตอบสนองคันเร่งที่ดุดันและรวดเร็วที่สุด
โหมด RAIN
ใช้กำลังเครื่องยนต์ต่ำสุดเพื่อลดความดุดันในการเปิดคันเร่ง เพิ่มระดับ Engine Brake ปานกลางและ HSTC สูงสุด ระดับกำลังและแรงบิดที่ต่ำในโหมดนี้เน้นการควบคุมใน 3 เกียร์แรก เพื่อความมั่นใจในสภาพถนนลื่น
โหมด USER 1 และ USER 2
เปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่ตั้งค่าแต่ละระบบตามความต้องการและบันทึกไว้ใช้ในอนาคต

ข้อมูลทางเทคนิค
| ประเภท | 4 สูบเรียง DOHC 4 จังหวะ 4 วาล์วต่อสูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ |
| ขนาดกระบอกสูบ (กว้าง x ช่วงชัก) | 75 x 56.5 มม. |
| ปริมาตรกระบอกสูบ | 1,000 ซีซี |
| อัตราส่วนกำลังอัด | 11.7 : 1 |
| พละกำลังสูงสุด | 123 แรงม้า ที่ 9,000 รอบ/นาที |
| แรงบิดสูงสุด | 103 นิวตันเมตร ที่ 8,000 รอบ/นาที |
| เกียร์ | คลัตช์มือ 6 สปีด พร้อมควิกชิพเตอร์ |
| ระบบขับเคลื่อน | โซ่ |
ตัวรถ
| เฟรม | ไดม่อน |
| โช๊คหน้า | โช๊คอัพหัวกลับ Showa ขนาด 41 มม. ระยะยุบ 130 มม. |
| โช๊คหลัง | โช๊คอัพสปริงเดี่ยว ระยะยุบ 140 มม. |
| เบรคหน้า | ดิสเบรคคู่ ขนาด 310 มม. พร้อมปั้มเบรค Nissin 4 ลูกสูบ |
| เบรคหลัง | ดิสเบรคเดี่ยว ขนาด 240 มม. พร้อมปั้มเบรค Nissin 1 ลูกสูบ |
| ยางหน้า | 120/70 ZR17 |
| ยางหลัง | 180/55 ZR17 |
มิติรถ
| ขนาด ยาว x กว้าง x สูง (มม.) | 2,135 x 835 x 1,125 |
| ความสูงเบาะ | 795 มม. |
| ระยะฐานล้อ | 1,455 มม. |
| ความสูงจากพื้นถึงท้องรถ | 135 มม. |
| น้ำหนักตัวพร้อมใช้งาน | 214 กก. |
| น้ำมันเชื้อเพลิง | 16 ลิตร |
Honda CB1000F มีสีสันสะท้อนยุคเรโทรสุดโดนใจมาให้เลือก 3 แบบ:
-
Wolf Silver Metallic + Blue Stripe
-
Wolf Silver Metallic + Grey Stripe
-
Graphite Black

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น