ฮอนด้าประเทศไทยเตรียมเปิด Honda CR-V e:HEV Minorchange (MY2025) พร้อมปรับราคาใหม่ เพิ่ม Blind Spot – CTM ยกเลิกรุ่น 1.5 TURBO
Honda CR-V 2026
หลังจากที่ทางฮอนด้า เตรียมเปิดตัว Honda CR-V e:HEV Minorchange (MY2025) นอกจากเพิ่มออฟชั่นต่างๆให้ดียิ่งขึ้น แต่รุ่นที่จะไม่มีจัดจำหน่ายอีกต่อไปแล้วกับ 1.5 TURBO แน่นอนว่าด้วยหลากหลายเหตุผลแต่เชื่อได้ว่าด้วยยอดขายที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยที่สำคัญ
ส่วนแรกน่าจะเป็นในเรื่องของราคา เพราะถ้าเทียบกับ รุ่น e:HEV แตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
- 1.5 Turbo E 5 ที่นั่ง ราคา 1,419,000 บาท
- 1.5 Turbo ES 4WD 5 ที่นั่ง ราคา 1,599,000 บาท
- 1.5 Turbo EL 4WD 7 ที่นั่ง ราคา 1,649,000 บาท
ความแรงของเครื่องยนต์ ปัญหาหลักเมื่อฮอนด้าใช้เครื่องเล็กแบกรถที่ใหญ่และหนักเท่าให้อัตราการบริโภคน้ำมันค่อนข้างมาก ยิ่งในรุ่น ขับเคลื่อน 4 ล้อ ยิ่งกินน้ำมันมากขึ้นไปอีกซึ่งเทียบกับในรุ่น ไฮบริดนั้นประหยัดน้ำมันกว่ามากอย่างชัดเจน เรียกได้ว่า ไม่แรง แถมไม่ประหยัดอีกด้วย
เบนซิน 1.5 ลิตร Turbo
เครื่องยนต์รหัส L15C2 (Accord และ Civic เป็นรหัส L15BG) 1,498 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 73.0 x 89.5 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.3 : 1 จ่ายเชื้อเพลิงตรงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ Direct-injection ด้วยหัวฉีดมัลติพอยท์ PGM-FI พร้อมระบบแปรผันวาล์ว VTEC (แบบ Dual VTC แปรผันโดยหมุนแท่งแคมชาฟท์ ทั้งฝั่งไอดีและฝั่งไอเสีย) พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharger แบบ Single-Scroll
กำลังสูงสุด 140 กิโลวัตต์ หรือ 190 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร (24.5 กก./ม.) ที่ 1,700 – 5,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผัน CVT (Continuously Variable Transmission) มีให้เลือกทั้งขับเคลื่อนล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตโนมัติ Real Time AWD
รองรับนำ้มันเชื้อเพลิงสูงสุดถึงระดับ Gasohol E85 มีอัตราการปล่อยก๊าซ CO2 ในรุ่น อยู่ที่ 166 กรัม/กิโลเมตร สำหรับรุ่น ES ขับเคลื่อนล้อหน้า ในขณะที่รุ่น EL 4WD ขับเคลื่อน 4 ล้อ จะสูงขึ้นเป็น 176 กรัม/กิโลเมตร (อ้างอิงจาก EcoSticke ของหน่วยงานรัฐบาลไทย)
เบนซิน 2.0 ลิตร Hybrid
เครื่องยนต์รหัส LFC2 เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร จ่ายเชื้อเพลิงตรงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ Direct-injection ด้วยหัวฉีดมัลติพอยท์ PGM-FI กำลังสูงสุด 148 แรงม้า ที่ 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 183 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 5,000 – 8,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 335 นิวตันเมตร ที่ 0 – 2,000 รอบ/นาที พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 1.06 kWh แบ่งออกเป็น 72 เซลล์ น้ำหนักประมาณ 36 กิโลกรัม ติดตั้งอยู่ใต้พื้นห้องเก็บสัมภาระด้านหลัง
อัตราการปล่อยก๊าซ CO2 ในรุ่น ES ขับเคลื่อนล้อหน้า อยู่ที่ 113 กรัม/กิโลเมตร ในขณะที่รุ่น RS 4WD ขับเคลื่อน 4 ล้อ จะสูงขึ้นเป็น 124 กรัม/กิโลเมตร (อ้างอิงจาก EcoSticke ของหน่วยงานรัฐบาลไทย)
ในรุ่น 7 ที่นั่งซึ่งเป็นรุ่นที่ใช้งานไม่ได้จริงต้องเรียกว่าเบาะเสริมเท่านั้นเองปัจจัยต่างเหล่านี้แน่นอนว่าลูกค้าส่วนใหญ่ก็ต้องตัดสินใจเลือกในรุ่น ไฮบริดมากกว่านั้นเอง จึงไม่มีความจำเป็นที่ทางฮอนด้าจะทนขายในรุ่น 1.5 Turbo อีกต่อไป
Honda CR-V e:HEV Minorchange (MY2025) จะมีรุ่นเพิ่มพร้อมราคาเริ่มต้นถูกลงเพื่อทดแทนรุ่น 1.5 Turbo
e:HEV E 2WD ราคาไม่เกิน 1,4xx,000 บาท
e:HEV ES 2WD ราคาประมาณการ 1,5xx,000 บาท
e:HEV HuNT 2WD ราคาประมาณการ 1,5xx,000 บาท
e:HEV RS 2WD ราคาประมาณการ 1,6xx,000 บาท
e:HEV RS 4WD ราคาประมาณการ 1,7xx,000 บาท
สำหรับ Honda CR-V e:HEV Minorchange (MY2025) ออฟชั่นที่เพิ่มขึ้น
เพิ่ม ระบบเตือนมุมอับสายตา BSM Blind Spot Monitoring
เพิ่ม ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง CTM Cross Traffic Monitor
เพิ่ม Google Built-in ทุกรุ่นย่อย
เพิ่ม โหมดการขับขี่แบบ Individual
เพิ่ม เบาะนั่งคู่หน้าแบบระบายอากาศ ตั้งแต่รุ่น e:HEV ES
เพิ่ม ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง ตั้งแต่รุ่น e:HEV ES
เพิ่ม ระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT พร้อมเทคโนโลยี Digital Key ทุกรุ่นย่อย
เพิ่ม เซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด ทุกรุ่นย่อย
เพิ่ม ขนาดมาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT เป็นขนาด 10.2 นิ้ว ทุกรุ่นย่อย
เพิ่ม สีตัวถังภายนอก ใหม่ สีเทามุก Urban Grey Pearl ในรุ่น e:HEV RS และ e:HEV RS 4WD
Honda CR-V e:HEV (MY2025)
เบาะ 2 แถว 5 ที่นั่ง
ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display)
ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ (Driver Memory Seat)
ระบบฟอกอากาศในห้องโดยสาร Plasmacluster
หลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา Panoramic Sunroof
ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch
รองรับ Apple CarPlay และ Android AutoTM แบบไร้สาย
ระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger)
ระบบ Honda SENSING
ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้า
ที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (LCDN)
ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS)
ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL)
ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC)
ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) และระบบ Auto Brake Hold
ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors)
LINE
ความคิดเห็น