เทียบฟอร์ม 6 ค่ายรถที่มี Wireless Charger เจ๋งที่สุดในตลาดไทยปีนี้

คัดมาให้แล้ว 6 รถยนต์ที่มี Wireless Charger ดีที่สุดปี 2025 รุ่นไหนมีพัดลมเป่า รุ่นไหนชาร์จแรง 50W เช็กสเปกกันแบบชัดๆ 

ชาร์จแล้วไม่ร้อน! เปิดโผ 6 รถยนต์ที่มี Wireless Charger ดีที่สุดในไทย ปี 2024-2025

ยุคนี้ใครๆ ก็มี Wireless Charger ในรถ แต่คำถามคือของใครดีจริง? เพราะปัญหาโลกแตกที่ผู้ใช้รถส่วนใหญ่เจอไม่ใช่แค่เรื่องชาร์จช้า แต่คือชาร์จแล้วเครื่องร้อนจี๋ จนแบตเสื่อมหรือระบบตัดการทำงาน ระบบระบายความร้อนจึงเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญ วันนี้เลดี้คัด 6 รถยนต์ที่มี Wireless Charger ดีที่สุดในไทย มาฝาก... จะมีรุ่นไหนบ้างไปรับชมกันค่ะ

Tesla Model 3 Highland / Model Y

ยืนหนึ่งเรื่องประสบการณ์การใช้งานต้องยกให้ Tesla ที่ได้รับเสียงตอบรับดีที่สุดในภาพรวม โดยเฉพาะในรุ่น Model 3 Highland ตัวใหม่ล่าสุด และ Model Y ซึ่งสามารถแก้ปัญหาเครื่องร้อนด้วยการติดตั้งพัดลมระบายความร้อน Active Cooling Fans ฝังไว้ใต้แท่นชาร์จมาให้เลย ช่วยลดอุณหภูมิขณะชาร์จได้อย่างมีประสิทธิภาพ จุดเด่นคือสามารถชาร์จได้พร้อมกัน 2 เครื่อง แบบวางปุ๊บชาร์จปั๊บ มีพื้นผิวบุด้วยวัสดุกำมะหยี่ Alcantara ช่วยถนอมเครื่องและกันลื่น และมีระบบ Software ทำงานร่วมกับหน้าจอกลาง แจ้งสถานะการชาร์จอย่างชัดเจน

Changan Deepal S07 / L07

อีกหนึ่งค่ายที่ไม่เป็นสองรอง Tesla ก็คือ Changan Deepal ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น The Cooling King ซึ่งรถที่ติดอันดับคือรุ่น Deepal S07 และ L07 ที่มาพร้อมแท่นชาร์จกำลังไฟสูงถึง 40W โดยซ่อนทีเด็ดไว้ตรงช่องแอร์เป่าระบายความร้อนด้านล่างแท่นชาร์จ ซึ่งระบบลมเป่าจะทำงานอัตโนมัติทันทีที่วางมือถือ ช่วยให้เครื่องไม่ร้อนจัดแม้จะชาร์จด้วยความเร็วสูง ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่หาได้ยากมากในรถระดับเดียวกัน

GWM ORA 07 / Haval H6

สายรีบต้องรักค่ายนี้ โดยเฉพาะเจ้าแมว  ORA 07 ที่จัดสเปกมาให้แบบดุดันไม่เกรงใจใคร ซึ่งมาพร้อมกับ Wireless Charger ที่จ่ายไฟแรงถึง 50W ถือว่าแรงที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดรถยนต์เมืองไทย ณ ตอนนี้ และด้วยกำลังไฟที่สูงปรี๊ด ทาง GWM จึงออกแบบระบบระบายความร้อนมารองรับการทำงานหนักโดยเฉพาะ ทำให้แบตเตอรี่เต็มไวเหมือนเสียบสายชาร์จ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบได้ดีเยี่ยม

BMW X1 / Series 3 / iX

แม้จะไม่เน้นตัวเลขความแรง แต่ BMW เน้นความชัวร์ และความปลอดภัยตามมาตรฐานเยอรมัน ซึ่งแท่นชาร์จในรุ่นใหม่ๆ อาทิ X1, Series 3 และ iX ออกแบบมาอย่างรัดกุม บางรุ่นมีตัวล็อกหรือเป็นแนวตั้ง พร้อมไฟ LED แจ้งสถานะชัดเจน (สีน้ำเงิน=ปกติ, สีส้ม=มีปัญหา) ตัวระบบเองมีความฉลาด โดยจะสื่อสารกับหน้าจอ iDrive และตัดการทำงานทันที หากตรวจพบว่าโทรศัพท์ร้อนเกินพิกัดเพื่อความปลอดภัยของอุปกรณ์ ถือเป็นระบบที่ไว้ใจได้ที่สุด

BYD Seal / Atto 3 รุ่นปี 2024

ขวัญใจมหาชนอย่าง BYD ก็ไม่น้อยหน้า โดยเฉพาะรุ่น Seal ที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการใช้งาน ให้แท่นชาร์จคู่ที่วางมือถือได้ 2 เครื่องพร้อมกัน ในตำแหน่งคอนโซลกลางที่หยิบจับง่ายที่สุดรุ่นหนึ่ง แต่แม้จะสะดวกมาก ก็ยังมีผู้ใช้จริงในไทยหลายท่านยังพบปัญหาเรื่องความร้อนสะสม ค่อนข้างมากในรุ่น Seal เนื่องจากระบบระบายความร้อนอาจยังไม่เย็นฉ่ำเท่า Changan หรือ Tesla (แนะนำให้เปิดแอร์แรงขึ้นหรือใช้เคสที่ระบายความร้อนช่วยจะดีขึ้น)

Lexus / Toyota Camry 2025 / Alphard

ปิดท้ายด้วยความเก๋าเกมจากค่ายญี่ปุ่น ในรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง All New Camry หรือ Alphard ที่ได้รับการยอมรับว่ามีความทนทานตามมาตรฐานญี่ปุ่น ซึ่งมีการปรับปรุงตำแหน่งวางให้ใช้งานง่ายขึ้น และอัปเกรดรองรับมาตรฐาน Qi ที่เสถียรกว่าเดิม เน้นความทนทาน ไม่จุกจิก ระบบไม่รวนง่าย แม้ความเร็วจะเป็นแบบมาตรฐาน (ไม่แรงเวอร์วังแบบ 50W) แต่ก็เพียงพอสำหรับการเลี้ยงแบตเตอรี่ระหว่างเดินทางไกลได้อย่างมั่นใจ

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อมูลทางเทคนิค (Specification) ในสื่อยานยนต์ชั้นนำของไทย และ User Reviews หรือรีวิวจากผู้ใช้งานจริงเท่านั้น ซึ่งยังไม่มีการจัดอันดับเป็นสถิติเชิงตัวเลข หรือคะแนนโหวตอย่างเป็นทางการ ที่วัดเฉพาะประสิทธิภาพของ Wireless Charger เพียงอย่างเดียว

อย่างไรก็ตาม หากสรุปโดยรวมจากทั้ง 6 รุ่นที่เลดี้กล่าวมา ถ้าคุณเป็นคนนึงที่ไม่อยากให้มือถือร้อนขณะชาร์จ แนะนำเป็น Changan Deepal หรือ Tesla Model 3 Highland เพราะเค้ามีระบบเป่าลมเย็นมาให้ แต่ถ้าคุณมีชีวิตที่เร่งรีบเน้นชาร์จไวแบตเต็มเร็ว แนะนำ GWM ORA 07 ค่ะ 

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน