รัฐบาลสหรัฐฯ พัฒนาเทคโนโลยีตรวจจับ “ความเมา” ก่อนออกรถ

หน่วยงานเพื่อความปลอดภัยบนถนนหลวงของสหรัฐอเมริกา (NHTSA) เปิดตัวเทคโนโลยีตรวจจับความเมาที่อาจช่วยลดอุบัติเหตุและรักษาชีวิตผู้คนหลายพันคนต่อปี

ระบบดังกล่าวมีชื่อว่า Driver Alcohol Detection System for Safety หรือ DADSS ที่เกิดจากการร่วมกันพัฒนาระหว่าง NHTSA และกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์เพื่อเป้าหมายป้องกันการขับขี่ขณะมึนเมาหรือการ “เมาแล้วขับ” อันเป็นบ่อเกิดของอุบัติเหตุร้ายแรงนั่นเอง

DADSS จะตรวจจับปริมาณแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ 2 รูปแบบ หนึ่งคือการสัมผัสสวิทช์ที่ติดตั้งบนคอนโซล สองคือการตรวจจับลมหายใจโดยใช้เวลาไม่ถึง 1 วินาทีในการตรวจสอบระดับแอลกอฮอล์

ถ้าผู้ขับขี่ที่มีอายุ 21 ปีขึ้นไปมีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด รถจะตัดวงจรการสตาร์ทโดยอัตโนมัติทำให้ไม่สามารถขับขี่รถออกไปได้ ขณะที่ผู้ขับขี่ที่มีอายุไม่ถึง 21 ปี ไม่ว่าแอลกอฮอล์จะมีปริมาณเท่าใด รถก็จะไม่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้เลย

“การให้ความรู้และความตระหนักถึงอันตรายจากการเมาแล้วขับ พร้อมการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดช่วยลดอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับได้มาก แต่ DADSS จะช่วยรักษาชีวิตผู้คนได้อย่างมหาศาล” แอนโทนี่ ฟ็อกซ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของสหรัฐฯ กล่าว

NHTSA คาดว่าระบบ DADSS จะต้องใช้เวลาศึกษาวิจัยอีกราว 5 ปีถึงจะสามารถติดตั้งได้ในรถโปรดักชั่นออกจำหน่ายจริง