เอ.พี.ฮอนด้า ย้ำพีซีเอ็กซ์ อีวี ราคาไม่ดึงดูด อนาคตเปิดตัวมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าใหม่

เอ.พี.ฮอนด้า ยอมรับตลาดมอเตอร์ไซค์ไตรมาสแรกปี 63 ไร้ปัจจัยบวก ชี้ 3 ปัจจัยหลักกระทบตลาดขาลง ระยะเวลาเปลี่ยนรถ เศรษฐกิจ ผลผลิตการเกษตร ย้ำพีซีเอ็กซ์ อีวี ราคาไม่ดึงดูด อนาคตเปิดตัวมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าใหม่ที่มีราคาย่อมเยาว์กว่าออกสู่ตลาด 

เอ.พี.ฮอนด้า

ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า เปิดเผยว่า ได้เปิดตัว Honda PCX EV มาปีหนึ่ง แต่ไม่ได้จำหน่าย ยังคงศึกษาความเป็นไปได้ของตลาดเพื่อการใช้งาน ซึ่งทางบริษัทแม่มีแผนที่จะเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าใหม่ที่มีราคาย่อมเยาว์มากขึ้นรองรับความต้องการของตลาด

ในการพัฒนาด้าน EV โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีพัฒนาระบบ EV Sharing ที่นักศึกษาสามารถแบ่งปันรถ PCX EV ผ่านทาง Application โดยมี PCX Electric Smart Station เป็นฮับในการชาร์จพลังงาน ซึ่งปีนี้ได้บริษัทกำลังพัฒนาฟังก์ชั่นการสลับแบตเตอรี่หรือ Battery Swapping อย่างเต็มรูปแบบ

"ปัจจุบันยังไม่มีนโยบายขายตรง พีซีเอ็กซ์ อีวี ถึงผู้ซื้อ  เพราะราคาไม่ได้ดึงดูด และยังไม่มีการซับซิไดซ์จากรัฐบาล คล้ายรถยนต์ที่รอผลิต โดยปีที่ผ่านมา เซ็กเมนต์ที่โดดเด่นคือ เอ.ที.พรีเมียม สะท้อนความต้องการผู้ใช้ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งหลายค่ายก็เห็นจึงออกผลิตภัณฑ์ออกมาทำให้ตลาดเติบโตซึ่งปีนี้ก็น่าจะเหมือนกัน คือเอ.ที.พรีเมียม โดยพีซีเอ็กซ์ ไฮบริด มียอดขายประมาณ 3,800 คัน "

ด้านตลาดรถมอเตอร์ไซค์ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.74 ล้านคัน ปรับตัวลดลง 3% ขณะที่เอ.พี.ฮอนด้ามีตัวเลขอยู่ที่ 1.34 ล้านคัน ลดลง 2% เมื่อเทียบกับปีก่อน และในปี 2563 คาดว่าตลาดรวมน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.7 ล้านคัน ทั้งนี้จากการศึกษาพบว่าตัวเลขปีนี้ที่ลดลงมาจาก 3 ปัจจัยหลักได้แก่ 1. ระยะเวลาการเปลี่ยนรถมอเตอร์ไซค์ 2. สภาพเศรษฐกิจของไทย และ 3.ผลผลิตภาคการเกษตร 

"ยอมรับว่าในช่วงไตรมาส 1 ปีนี้ ไม่น่าจะมีปัจจัยบวก ส่วนปัจจัยที่ส่งผลกระทบเยอะในช่วงเดือนม.ค.2563 คือเรื่องภาษีสรรสามิตที่ปรับขึ้น ซึ่งมีการส่งสัญญาณมาก่อนหน้านี้แล้ว และทางเอ.พี.ฮอนด้าได้คำนวณพร้อมปรับสะท้อนราคาที่แท้จริงไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ที่ไม่ได้อยู่ในการคำนวณและเกิดขึ้นกระทันหันคือ ไวรัสโคโรน่าที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว และหากเกิดผบกระทบระยะยาวอาจกระทบต่อเศรษฐกิจ ซึ่งเอ.พี.จะติดตามอย่างต่อเนื่อง"

ส่วนแผนรับมือปัจจัยลบในตลาด ทางเอ.พี.ฮอนด้า จะปรับปรุงการบริการ จัดทำโปรโมชั่นให้ลูกค้าซื้อง่ายขึ้น เพื่อรองรับตลาดขาลง นอกจากนี้ จะยังคงทยอยเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์สนองความต้องการของลูกค้า

ขณะที่ตลาดบิ๊กไบค์ 2562 มีตัวเลขเท่ากับปี 2561 และอาจเป็นไปได้ว่าในปี 2563 ตลาดบิ๊กไบค์จะไม่เติบโตหรือเติบโตน้อยกว่าปีก่อนหรือประมาณ 30,000 คัน ขณะที่ปี 2562 เอ.พี.ฮอนด้ามียอดขายบิ๊กไบค์อยู่ที่ 12,000คัน ซึ่งในปีนี้มีการเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์หลายรุ่น รวมทั้งบิ๊กไบค์คาดว่าโปรดักส์ใหม่จะช่วยกระตุ้นตลาดอีกทางหนึ่ง

เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่