BMW X1 รีวิวจัดเต็ม สรุปข้อดีข้อเสีย พร้อมเปิดราคาทุกรุ่นย่อย

รถที่ได้รับความนิยมอีกหนึ่งรุ่นจากค่ายใบพัด ต้องมี BMW X1 อยู่ในรายชื่อแน่นอน X1 2022 ปรับโฉมประกอบไทย รีวิวขับทดสอบเดินทางไกลกว่า 800 km 

BMW X1 รีวิวน้องเล็ก เดินทางใกล้ดี ทางไกลเมื่อย 

สำหรับ BMW X1 2022 สิ่งที่เป็นจุดเด่นและทำให้ขายดีอย่างต่อเนื่องแน่นอนว่า ปัจจัยหลักก็คือรถในรูปแบบ SUV อเนกประสงค์ได้รับความนิยมขึ้นอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญสุดในเรื่องราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น 

BMW X1 ราคา

ราคาของรถยนต์ BMW X1 มีด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่น (รุ่นประกอบในประเทศ)

•  BMW X1 sDrive18i ICONIC ราคา 1,999,000 บาท
•  BMW X1 sDrive20d xLine ราคา 2,359,000 บาท
•  BMW X1 sDrive20d M Sport ราคา 2,559,000 บาท

BMW X1 มาพร้อม BSI Standard รับประกันตัวรถ 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ฟรีค่าบำรุงรักษา BSI นาน 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร

รถยนต์ BMW X1 รุ่นไหนดี?

รถยนต์ BMW X1 รุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล โดย X1 จัดเป็นรถในกลุ่ม Crossover ด้วยชื่อเสียงในเรื่องความแรงและประหยัดพลังงาน ทนทาน ทำให้เครื่องยนต์ดีเซลได้รับความนิยม

ทั้งนี้ ทางทีมงานได้มีโอกาสได้รับรีวิวทดสอบรถยนต์ BMW X1 ในรุ่น X1 sDrive20d M Sport วิ่งทดสอบกันยาว กรุงเทพฯ-นครพนม แต่ก่อนอื่น เรามาดูดีไซน์โดยรวมกันก่อน

ภายนอก BMW X1

การปรับโฉมครั้งล่าสุด ไฟหน้า ดีไซน์ใหม่ Projector แบบ LED ระบบเปิด-ปิดไฟหน้า แบบอัตโนมัติ กระจังหน้า ดีไซน์ใหม่ กันชนหน้า จาก M sport ไฟท้าย ดีไซน์ใหม่ LED ล้ออัลลอย ขนาด 19 นิ้ว Double-Spoke แบบสลับสี ฝาท้ายด้วยระบบไฟฟ้า

ภายใน  BMW X1

ปี 2022 นี้ BMW X1 มีการอัปเกรดหน้าจอกลางเป็น 10.25 นิ้ว ปุ่มควบคุม iDrive พร้อมระบบสัมผัส  Application สำหรับ Smart Phone ระบบเสียง Hi-Fi LoudSpeaker ช่องเชื่อมต่อ AUX ช่องเชื่อมต่อ USB เบาะนั่งคู่หน้าแบบสปอร์ต Sport เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Dakota พร้อมรูระบายอากาศ พวงมาลัยดีไซน์ M Sport แป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา Dual Zone ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมลาย Finely Brushed Lengthwise

เครื่องยนต์ BMW X1 มีให้เลือก 2 เครื่องยนต์

เครื่องยนต์เบนซิน sDrive18i

เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ รหัส B38 BMW TwinPower Turbo ขนาด 1.5 ลิตร 1,499 ซีซี. กำลังสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 4,400 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ที่ 1,250 – 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ Steptronic Dual Clutch ขับเคลื่อนล้อหน้า FWD

เครื่องยนต์ดีเซล sDrive20d (รถทดสอบ)

เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ รหัส B47 BMW TwinPower Turbo ขนาด 2.0 ลิตร 1,995 ซีซี. กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Steptronic Sport ขับเคลื่อนล้อหน้า FWD

Powertrain & Technology เทคโนโลยี

• พวงมาลัยไฟฟ้าแบบ Servotronic
• ระบบตัดการทำงานเครื่องยนต์อัตโนมัติ Automatic Start/Stop
• โหมดการขับขี่ Sport / Normal / ECO PRO

รีวิว ทดสอบ BMW X1

เราคุ้นหน้าคุ้นตา BMW X1 กันอยู่แล้วที่เห็นวิ่งกันตามท้องถนน แต่สำหรับรุ่นใหม่ที่ได้รับการปรับโฉมนี้ รู้สึกได้ถึงความลงตัวที่โดยรอบมาพร้อมชุดแต่ง M sport ทำให้รถดูสปอร์ตมากขึ้น กระจังหน้าใหม่ ไฟหน้าแบบ LED ล้อลายใหม่ขนาด 19 ที่เข้ากับตัวรถ

รับรถ ทดลองขับในเมืองอยู่หนึ่งวัน BMW X1 2022 แสดงให้เห็นว่าใช้งานได้อย่างคล่องตัวในเมือง ด้วยขนาดรถที่มีขนาดพอดีกับการใช้งาน มุมมองหรือตำแหน่งนั่งต่างรู้สึกถึงความโปร่ง อัตราการประหยัดน้ำมันถือเป็นจุดเด่นของเครื่องดีเซล ในเมืองทำได้อยู่ 13-14 km/L 

เริ่มการรีวิว ออกเดินทางสู่นครพนม ขนสัมภาระเต็มคันวิ่งยาว สิ่งแรกที่ขัดใจสำหรับการเดินทางไกลอย่างแรกคือ CruisControle รถราคานี้ไม่มีให้อันนี้เสียใจ เพราะการเดินทางไกลนั้นได้ใช้งานแน่นอน

ในส่วนเครื่องยนต์พละกำลังระดับ 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ในรอบต่ำขับขี่ทางไกลนั้นเรียกว่าสบายมาก ใช้คันเร่งเบาๆความเร็วก็ไปถึง 120 km อย่างรวดเร็ว จะกดแซงเมื่อไหร่ก็พร้อมตลอด โหมดการขับขี่ต่างๆนั้นแทบจะไม่ต้องยุ่งเลย 

แต่ถ้าจะต้องปรับในโหมดต่างๆรู้สึกแตกต่างหลักๆในเรื่องคันเร่งเท่านั้นเอง กับรอบเกียร์ที่จะสูงขึ้นในโหมด sport ในโหมด ECO นั้นคันเร่งแอร์จะเบาลงชัดเจน ดังนั้นในการใช้งานจริงๆเราก็วิ่งอยู่ในโหมด Normal เท่านั้น 

ในการวิ่งทางไกลความเร็วสูงต้องยอมรับว่า BMW นั้นมีช่วงล่างที่เป็นจุดเด่น เรียกว่าเกาะถนนได้อย่างมั่นใจ ถ้าคุณเป็นคนชอบที่ขับรถในความเร็วสูง BMW X1 จะเป็นรถที่ขับขี่สนุกมาก พวงมาลัยคม การเก็บเสียงดีแน่นอน แต่เสียดายที่เบาะนั่งนั้นค่อนข้างแข็งซึ่งถ้าได้เบาะที่นุ่มกว่านี้อาจจะทำให้รู้สึกว่าวิ่งทางไกลได้สบายกว่า พร้อมทั้งตำแหน่งเบาะนั่งหลังนั้นก็ไม่สามารถปรับได้ทำให้นั่งหลังตรงๆหน่อย 

วิ่งถึงที่หมาย อัตราการกินน้ำมันอยู่ที่ 18 km/L อืมดีงาม เรียกว่าในการทดสอบไม่ได้วิ่งแบบประหยัดพร้อมสัมภาระเต็มคันตัวเลข ที่ทำได้นั้นไม่แปลกใจเลยที่ใครก็ต้องเลือก ดีเซล

ระบบความปลอดภัยใน BMW X1 มีอะไรบ้าง?

• ระบบควบคุมการขับขี่ขณะเข้าโค้ง Performance Control
• ระบบแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกหน้าฝั่งคนขับ Head-up Display
• ระบบควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง Park Distance Control (PDC)
• ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
• ระบบกระจายแรงเบรก EBD
• ระบบเสริมแรงเบรก BA
• ระบบควบคุมแรงดันเบรกแบบแปรผัน DBC
• ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ DSC
• ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน DTC
• ระบบเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ Attentiveness Assistant
• ถุงลมนิรภัย 6 ลูก
• กล้องมองภาพขณะถอยจอด พร้อมเซ็นเซอร์หน้าหลัง

สรุปข้อดีข้อเสีย BMW X1 

จากการรีวิวทดลองขับ สิ่งที่ได้สำหรับ BMW X1 แน่นอนว่าสิ่งที่จูงใจคือราคา ขนาด หน้าตา วิ่งในเมืองแบบสบายๆคล่องตัว วิ่งทางไกลเป็นอย่างไร ดีรถไม่เล็กขนของได้พอสมควร แน่นอนว่าทั้งหมดนี้เป็นสิงที่ทำให้ X1 ยังคงเป็นที่ต้องการ

ข้อดีของ BMW X1

1. ราคาที่เข้าถึงได้ง่าย เริ่มต้นไม่เกิน 2 ล้าน
2. หน้าตาที่ได้รับการปรับแต่งดูดีขึ้น 
3. เครื่องยนต์ดีเซลที่มีทั้งพลังและอัตราการกินน้ำมันที่ต่ำ
4. ช่วงล่างให้ความมั่นใจได้ทุกเส้นทาง

ข้อเสียของ BMW X1

1. อุปการณ์ภายในแบบโบราณ
2. อุปการณ์ช่วยในเรื่องการขับขี่น้อยมากโดยเฉพาะ CruisControle
3. เบาะนั่งแข็ง เบาะหลังปรับไม่ได้

Autospinn เว็บไซต์รายงานข่าวรถยนต์ รถยนต์ไฟฟ้า รถมอเตอร์ไซค์ เช็ควันเปิดตัวรถใหม่ ราคารถ ตารางผ่อน และรีวิวรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดยทีมงานมืออาชีพ

ซื้อ-ขาย รถมือสอง ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยชัวร์ ต้องที่ ตลาดรถ One2car