แต่งรถแบบไหน ประกันภัยไม่คุ้มครอง ? Share this

แต่งรถแบบไหน ประกันภัยไม่คุ้มครอง ?

Champ Autospinn
โพสต์เมื่อ 10 February 2566

การแต่งรถ ถือเป็นหนึ่งในความสุขของคนรักรถ แต่ก็เชื่อว่ามีหลายคนที่สงสัยในส่วนของรถแต่ง ว่าต้องแจ้งบริษัทประกันหรือไม่ และชิ้นส่วนไหนบ้างที่ประกันไม่เคลมให้


ในกรณีที่คุณทำประกันรถยนต์ไปแล้ว และรู้สึกว่าอยากจะแต่งรถเพิ่ม ซึ่งการทำแบบนี้ประกันจะขาด ไม่คุ้มครองหรือไม่ เรารวบรวมข้อควรรู้แต่ละข้อดังต่อไปนี้

การตกแต่งรถเพิ่ม ต้องแจ้งประกันหรือไม่ ?

หลังจากที่คุณซื้อรถยนต์ และทำประกันเรียบร้อยแล้ว หากไปแต่งเติมส่วนต่าง ๆ เพิ่ม เช่น ติดสติกเกอร์รถยนต์ เปลี่ยนท่อไอเสีย ติดสเกิร์ต เปลี่ยนล้อแม็ก หรืออื่น ๆ ซึ่งไม่ว่าคุณจะตกแต่งใด ๆ เพิ่มก็ตาม “ควรแจ้งบริษัทประกันภัย” ให้รับทราบและคุ้มครองบางส่วนให้กับคุณ โดยให้แจ้งไปที่เจ้าหน้าที่ประกันภัยโดยตรงได้เลย

ทำประกันมาแล้วแต่งรถยนต์ภายหลัง ประกันจะขาดหรือเปล่า ?

หากคุณได้ทำการแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ประกันเรียบร้อยแล้ว ประกอบกับเจ้าหน้าที่แจ้งบริษัทประกันผ่านพิจารณาแล้ว ประกันรถยนต์ที่ทำไว้ก่อนหน้านี้จะไม่ขาดแต่อย่างใด ทั้งนี้ในกรณีที่คุณแต่งรถอย่างหนัก ทำให้รถยนต์ของคุณเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ควรให้ทางเจ้าหน้าที่มาถ่ายรูปสภาพรถยนต์เอาไว้ และพิจารณาว่า “ผิดเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัย” อะไรบ้างหรือไม่อย่างไร หรือคุณอาจจะเป็นฝ่ายถ่ายส่งไปเองก็ได้

ควรทำประกันเพิ่มส่วนที่เราตกแต่งหรือไม่ ?

หากคุณรู้สึกไม่สบายใจ หรือไม่วางใจหลังจากที่ตกแต่งรถเพิ่มเติมไปแล้ว สิ่งที่ควรทำเป็นอย่างยิ่งคือ “ทำประกันส่วนเพิ่มที่ตกแต่งเอาไว้” โดยเฉพาะในกรณีที่ของตกแต่งรถยนต์มีมูลค่าสูง เพื่อคุ้มครองความเสียหายที่ไม่คาดคิด จะได้ไม่เดือดร้อนในภายภาคหน้า ในส่วนของ “เบี้ยประกันส่วนเพิ่มเติม” ควรติดต่อบริษัทประกันภัย ให้เข้ามาตีมูลค่าเบี้ยประกันเพิ่มเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย

ควรระวังไม่ให้การแต่งรถผิดกฎหมาย

ในส่วนประเด็นต่อมาคือ ควรระวังไม่ให้การแต่งรถของคุณผิดกฎหมาย จะช่วยให้สถานภาพของการประกันตามเงื่อนไขกรมธรรม์ไม่ติดขัด แต่แบบไหนล่ะ ? ที่จะไม่ผิดกฎหมาย มาดูกันครับ

  • รถยนต์ที่โหลดเตี้ยต้องพิจารณา พ.ร.บ. กำหนดว่าไม่ควรต่ำกว่า 40 เซนติเมตร วัดจากกึ่งกลางไฟหน้ารถยนต์กับระดับพื้นถนน หรือถ้ายกสูงก็ไม่ควรเกิน 175 เซนติเมตร โดยวัดจากกึ่งกลางไฟหน้ากับระดับพื้นถนนเช่นกัน
  • ท่อไอเสียต้องมีความดังไม่เกิน 100 เดซิเบล ส่วนขนาดท่อจะใหญ่หรือเล็ก ก็ไม่มีผลทางกฎหมายแต่อย่างใด
  • ไฟเบรกทุกจุดบนรถต้องเป็นสีแดง ไฟเลี้ยวต้องเป็นแสงสีเหลือง ไฟถอยหลังต้องเป็นแสงสีขาว โดยห้ามดัดแปลงใด ๆ เด็ดขาด
  • ห้ามดัดแปลงป้ายทะเบียนรถยนต์ ไม่ว่าจะกรณีใด ๆ ก็ตาม
  • ขนาดของล้อรถยนต์ แม้กฎหมายจะไม่ได้ระบุเอาไว้ แต่ต้องเป็นขนาดที่ไม่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุไม่คาดคิด หรือสร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนร่วมทาง
  • การเปลี่ยนสีรถยนต์ ไม่ว่าจะทั้งคันหรือเพียงแค่บางจุด ต้องแจ้งกับกรมขนส่งให้เรียบร้อย รวมถึงแจ้งกับบริษัทประกันภัยด้วยเช่นกัน
  • การติดสติกเกอร์แต่งรถ ไม่ถือว่าเป็นการตกแต่งที่ผิดกฎหมาย

และทั้งหมดนี้คือข้อควรรู้ ที่คนคิดจะแต่งรถต้องทำความเข้าใจให้ดี เพื่อป้องกันการเสียผลประโยชน์ไปแบบไม่รู้ตัว และอย่าได้คิดว่า “แค่นี้ไม่เป็นอะไรหรอก” เพราะถ้าหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา แล้วปรากฏว่า “แค่นี้” ของคุณ ดันไม่เข้าเกณฑ์การได้รับความคุ้มครองแล้วล่ะก็ ตัวคุณเองนี้แหละที่จะต้องปาดเหงื่อกับค่าใช้จ่ายที่ตามมาในอนาคต

รถแต่งมีกี่ประเภท อะไรบ้าง ?

ประเภทของรถแต่งในปัจจุบัน ขึ้นอยู่กับการแต่งรถของแต่ละบุคคลเป็นสำคัญ หากแต่งรถเพื่อความสวยงาม สามารถทำได้อย่างอิสระ แต่ถ้าหากมีการตกแต่งเครื่องยนต์ หรือการแต่งเพื่อใช้งานผิดวัตถุประสงค์ จะถือว่าผิดเงื่อนไขในการเอาประกัน ซึ่งประเภทของรถแต่งในปัจจุบัน จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

  1. รถแต่งเพื่อความสวยงาม เช่น การเปลี่ยนล้อแม็ก การติดตั้งอุปกรณ์แต่งรถ การเปลี่ยนไฟแต่งรถติดสปอยเลอร์ หรือสเกิร์ตต่าง ๆ ซึ่งในส่วนนี้ขอย้ำอีกครั้งว่าสามารถทำได้ แต่ต้องแจ้งแก่บริษัทประกันภัย เพื่อทำการพิจารณารับประกันความคุ้มครองการแต่งรถเพิ่ม
  2. รถแต่งเพื่อดัดแปลงเครื่องยนต์ เพื่อเพิ่มความเร็ว การดัดแปลงเครื่องยนต์ใหม่ ที่มีขนาดใหญ่กว่ามาตรฐานเครื่องยนต์ทั่วไป เพื่อให้รถยนต์ของคุณวิ่งได้เร็วมากขึ้น บางคันถึงขั้นดัดแปลงเพื่อใช้รถแข่งความเร็ว ซึ่งนับว่าเป็นการใช้งานที่ผิดวัตถุประสงค์ แถมยังเข้าข่ายแต่งรถผิดกฎหมาย ส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ถึงขั้นบริษัทประกันภัยไม่รับพิจารณา

การติดตั้งก๊าซ LPG/NGV จำเป็นจะต้องแจ้งบริษัทประกันด้วยเช่นกัน

แต่งรถแบบไหน ประกันภัยไม่ให้ความคุ้มครอง ?

อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าบริษัทประกันรถยนต์ ยังคงให้ความคุ้มครองรถยนต์ที่ตกแต่งเพิ่มเติม แต่ก็มี “ข้อยกเว้น” สำหรับกรณีที่แต่งรถยนต์เพื่อเพิ่มความเร็ว เพราะถือว่าผิดประเภทในการขอเอาประกัน โดยรถยนต์ดัดแปลงที่จะไม่ได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันภัย มีดังนี้

  • ติดตั้งท่อไอเสียที่มีเสียงดังเกิน 100 เดซิเบล
  • ดัดแปลงเครื่องยนต์เพื่อให้แรงขึ้น มีเกจวัดเต็มแผงคอนโซล
  • รถแต่งซิ่ง โหลดต่ำกว่า 40 เซนติเมตร ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522
  • เปลี่ยนสีรถทั้งคัน โดยไม่แจ้งกรมขนส่งทางบก
  • ดัดแปลงสีไฟที่ไม่ใช่สีที่ควรจะเป็น เช่น ไฟเบรก ไฟเลี้ยว เป็นต้น
  • แผ่นป้ายทะเบียนไม่ใช่อันเดิมที่กรมขนส่งออกให้ หรือมีอะไรมาบดบัง รวมถึงห้ามใช้ป้ายทะเบียนยาว หรือป้ายทะเบียนแบบเขียนเอง

ซึ่งการแต่งรถประเภทนี้ เป็นการ “ใช้รถผิดประเภท” ซึ่งผู้เอาประกันอาจมีจุดประสงค์เพื่อนำรถไปใช้ในการแข่งขัน ทำให้บริษัทประกันรถยนต์ไม่รับทำประกันให้ เนื่องจาก “มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูง” แถมยังมีความเสี่ยงมากกว่ารถยนต์ทั่วไป ที่สำคัญ! อาจมีค่าเสียหายสูงมากอีกด้วย

สำหรับคนที่แต่งรถยนต์และต้องการได้รับ “ความคุ้มครองเพิ่มเติม” รวมถึงวงเงินในการเคลมประกันที่สูงขึ้น เพื่อป้องกันการควักเงินจ่ายเอง ในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น คุณสามารถแจ้งบริษัทประกันภัยให้คุ้มครองครอบคลุมถึง “อุปกรณ์แต่งรถ” ได้ ด้วยการยื่นเอกสารดังนี้

  • ยื่นใบเสร็จของอุปกรณ์แต่งรถยนต์หรือภาพถ่ายของใบเสร็จ ส่งให้บริษัทประกันเพื่อประเมินราคา
  • รอบริษัทประกันคำนวณค่าเบี้ยประกันเพิ่มเติม
  • ชำระค่าเบี้ยประกัน
  • บริษัทประกันจะออก “ใบกรมธรรม์เพิ่มเติม” หรือ “ใบสลักหลัง” ให้กับผู้เอาประกัน ซึ่งจะเป็นในส่วนที่คุ้มครองอุปกรณ์การแต่งรถยนต์ที่เพิ่มเติม

ประกันรถยนต์จะไม่ได้ให้ความคุ้มครอง 100% เต็มของราคาอุปกรณ์ที่คุณไปตกแต่งมา โดยอุปกรณ์ที่แต่งเพิ่มเติมมานั้น หากมีมูลค่าไม่เกิน 20,000 บาท ตอนที่แจ้งกับบริษัทประกัน จะไม่ต้องเสียเบี้ยประกันเพิ่ม แต่ถ้าหากคุณแต่งแบบจัดเต็ม แบบหมดเงินกับค่าแต่งรถไปเป็นหลักแสน แบบนี้อาจจะต้องทำใจเผื่อเอาไว้บ้าง เพราะส่วนมากแล้วประกันจะให้ความคุ้มครองไม่เกิน 20,000 บาท ต่อครั้งเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าหากคุณมีอุปกรณ์ที่เสียหายหลายชิ้น และมีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 20,000 บาท คุณจะต้องควักเงินจ่ายเองยังไงล่ะ

ไม่ว่าคุณจะแต่งรถเพื่อความสวยงาม หรือแต่งรถเพื่อเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ให้ดีขึ้น ก็สามารถเลือกทำได้ทุกกรณี แถมประกันรถยนต์ยังให้ความคุ้มครองเหมือนเดิม แต่ถ้าหากคุณต้องการแต่งเพื่อเอาไปแข่งขันต้องทำใจเอาไว้บ้าง เพราะถ้าเกิดความเสียหายขึ้นมา อาจจะต้องควักเนื้อกันไปยาว ๆ เพราะข้อสำคัญของความคุ้มครองจากบริษัทประกันภัย คือความคุ้มครองตามประเภทการใช้งาน ตามที่คุณได้ระบุไว้ในกรมธรรม์เมื่อเริ่มต้นการทำประกันรถยนต์นั่นเอง

ข้อมูลจาก : ประกันรู้ใจ
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn

ค้นหารถมือสองทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถมือสอง One2car

 


คำนวณค่างวดรถเบื้องต้น
Use the calculator to calculate the installment of your dream car
ระยะเวลาผ่อนชำระ (เดือน)
* ราคาค่างวดรวม VAT แล้ว สำหรับพิจารณาข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในการซื้อขายได้
อัตราการผ่อนชำระ (เดือน)
บาท
จำนวนงวด (เดือน)
สนใจขอสินเชื่อรุ่นนี้
* ราคาค่างวดรวม VAT แล้ว สำหรับพิจารณาข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในการซื้อขายได้

ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ