รีวิว Honda HR-V e:HEV RS ประหยัดน้ำมันเอาเรื่อง ของดีที่ต้องลอง Share this
รีวิวรถยนต์
โหมดการอ่าน

รีวิว Honda HR-V e:HEV RS ประหยัดน้ำมันเอาเรื่อง ของดีที่ต้องลอง

Champ Autospinn
โพสต์เมื่อ 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา

Honda HR-V เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ขายดิบขายดี แม้ว่าในโฉมนี้จะเปิดตัวออกมาสักพักใหญ่แล้ว แต่กระแสความนิยมไม่ได้ลดน้อยลงเลย


ย้อนกลับไปช่วงปี 2014 ฮอนด้าสร้างเสียงฮือฮาด้วยการเปิดตัว HR-V โฉมแรกในไทย โดยมาในสไตล์รถครอสโอเวอร์ไซส์พอเหมาะ ซึ่งในยุคนั้น Honda HR-V ถือเป็นรถ 5 ประตูรุ่นใหม่ที่เข้ามาขั้นกลางระหว่าง JAZZ กับ CR-V ได้กระแสตอบรับที่ดี และมียอดขายขึ้นแท่นผู้นำในรถกลุ่มนี้ จากนั้นก็ขายลากยาวมาจนถึงช่วงปี 2021

รีวิว Honda HR-V e:HEV RS 2025

ต่อมาในปี 2021 ฮอนด้าได้สร้างเสียงฮือฮาอีกครั้งด้วยการเปิดตัว HR-V 2021 เจเนอเรชั่นใหม่ ที่เปลี่ยนดีไซน์จากเดิมทั้งคัน แบบไม่ทิ้งเค้าโครงเดิม โดยโฉมนี้ ชูจุดเด่นเรื่องความประหยัดน้ำมันโดยการเปลี่ยนมาใช้เป็นเครื่องยนต์แบบฟูลไฮบริด (e:HEV) และล่าสุดเมื่อช่วงปลายปี 2024 ที่ผ่านมา ได้ทำการไมเนอร์เชนจ์ แต่งหน้าทาปากใหม่ ใส่ออปชั่นเพิ่ม แต่ยังคงใช้บอดี้ และเครื่องยนต์ตัวเดิม

รีวิว Honda HR-V e:HEV RS 2025

บทความนี้ Autospinn ได้มีโอกาสนำ Honda HR-V RS มาขับทดสอบอยู่หลายวัน มีทั้งสิ่งที่ชอบ และที่ยังไม่ชอบ ในรถรุ่นนี้ รวมถึงได้ทดสอบอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงจากการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน เลยอยากใช้พื้นที่ตรงนี้เพื่อเล่าสู่กันฟังครับ

ราคา Honda HR-V 2025

  • e:HEV E ราคา 949,000 บาท
  • e:HEV EL ราคา 1,079,000 บาท
  • e:HEV RS ราคา 1,179,000 บาท

Honda HR-V e:HEV RS ดีไซน์ภายนอก

รีวิว Honda HR-V e:HEV RS 2025

รีวิว Honda HR-V e:HEV RS 2025

Honda HRV e:HEV RS มีมิติตัวถัง ความกว้าง 1,790 มม. ความสูง 1,590 มม. ความยาว 4,385 มม. ความสูงใต้ท้องรถ 196 มม. โดดเด่นด้วยชุดแต่ง RS รอบคัน กระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ตดีไซน์ใหม่ พร้อมสัญลักษณ์ RS ไฟหน้าเป็นแบบ Full LED เปิด-ปิดอัตโนมัติ พร้อมระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ รวมถึงยังมีระบบไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว

รีวิว Honda HR-V e:HEV RS 2025

ที่ด้านบนของกระจกหน้ารถจะเห็นได้ว่ามีกล้อง ซึ่งกล้องตัวนี้ทำหน้าที่ในการตรวจจับเส้นเลนถนน รถยนต์ โดยทำงานให้กับระบบความปลอดภัย Honda SENSING

รีวิว Honda HR-V e:HEV RS 2025

รีวิว Honda HR-V e:HEV RS 2025

กระจกมองข้างสีดำเงา พับและปรับได้ด้วยไฟฟ้า มีไฟเลี้ยวให้ในตัว ที่ใต้กระจกมองข้างฝั่งซ้าย มีกล้องมาให้ 1 ตัว ซึ่งกล้องตัวนี้จะทำงานในระบบความปลอดภัย Honda LaneWatch เมื่อเราเปิดไฟเลี้ยวซ้าย จะขึ้นเป็นภาพแสดงให้ที่หน้าจอตรงกลาง เป็นระบบความปลอดภัยที่ช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากมุมอับสายตาในขณะขับขี่

รีวิว Honda HR-V e:HEV RS 2025

และผมเชื่อว่าผู้ใช้รถหลายท่านเมื่อลงจากรถแล้ว ก็อาจจะเคยลืมล็อกรถกันบ้างแหละ ซึ่งเสี่ยงต่อการโดนโจรกรรม แต่สำหรับเจ้าคันนี้หมดกังวลได้เลยครับ เมื่อเราเดินออกห่างจากตัวรถ ระบบจะล็อกรถให้เองแบบอัตโนมัติ โดยระบบนี้มีชื่อเรียกว่า Walk Away Auto Lock

รีวิว Honda HR-V e:HEV RS 2025

สำหรับล้อแม็กซ์ในรุ่นนี้ ก็สวยงามเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน จะได้เป็นล้อขนาด 18 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 225/50R18 และเป็นดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ

รีวิว Honda HR-V e:HEV RS 2025

ไฟท้ายเป็นแบบ Full LED Light Strip ดีไซน์ใหม่ สี Smoke พร้อมเซนเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 จุด

รีวิว Honda HR-V e:HEV RS 2025

สรุป HRV รุ่น RS 2025 ภายนอก ต่างจากรุ่นเก่ายังไง ?

  • ดีไซน์ด้านหน้าแบบใหม่ กระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ตดีไซน์ใหม่ พร้อมสัญลักษณ์ RS
  • ไฟท้ายแบบ Full LED Light Strip ดีไซน์ใหม่ สี Smoke
  • ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สีใหม่ สีดำ Berlina Black แบบ Diamond cut 
  • เพิ่มระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) 
  • เพื่มระบบไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL) 
  • เพิ่มเซนเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 จุด

Honda HR-V e:HEV RS ดีไซน์ภายใน

รีวิว Honda HR-V e:HEV RS 2025

ภายในห้องโดยสารกว้างกำลังดี ให้มุมมองที่โล่งโปร่งสบายตา ในรุ่น RS จะเน้นการใช้สีแดงเข้ามาตกแต่งอยู่หลายจุด สื่อถึงความสปอร์ต รวมถึงเส้นด้ายที่ใช้เย็บก็เป็นสีแดงเช่นกัน

รีวิว Honda HR-V e:HEV RS 2025

พวงมาลัย 3 ก้านหุ้มหนัง มีปุ่มมัลติฟังก์ชันฝั่งซ้ายสำหรับควบคุมจอเครื่องเล่นตรงกลาง ส่วนปุ่มทางฝั่งขวาสำหรับตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน และระบบความปลอดภัยต่าง ๆ

รีวิว Honda HR-V e:HEV RS 2025

จอเรือนไมล์แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว สำหรับดูค่าต่าง ๆ ของตัวรถ

รีวิว Honda HR-V e:HEV RS 2025

รีวิว Honda HR-V e:HEV RS 2025

จอเครื่องเล่นแบบทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay ,Android Auto แบบไร้สาย มีระบบสั่งการด้วยเสียงผ่าน และระบบเชื่อมต่อ Honda Connect

รีวิว Honda HR-V e:HEV RS 2025

เมื่อเปิดไฟเลี้ยวซ้าย หรือกดปุ่มที่อยู่ปลายก้าน กล้องที่อยู่ใต้กระจกมองข้างฝั่งซ้ายจะทำงาน หน้าจอกลางในรถจะขึ้นเป็นภาพด้านซ้ายของตัวรถ ซึ่งระบบนี้เรียกว่า Honda LaneWatch เป็นระบบความปลอดภัยเพื่อช่วยลดอุบัติเหตุจากมุมอับสายตา

รีวิว Honda HR-V e:HEV RS 2025

รีวิว Honda HR-V e:HEV RS 2025

รีวิว Honda HR-V e:HEV RS 2025

รีวิว Honda HR-V e:HEV RS 2025

สำหรับที่นั่งผู้โดยสารตอนหลัง นั่งสบาย พื้นที่กว้างขวาง มีแอร์หลัง พร้อมช่อง USB สำหรับชาร์จโทรศัพท์ ตัวเบาะยังสามารถพับได้หลากหลายรูปแบบ รองรับทุกสไตล์การใช้งาน

สรุป HRV รุ่น RS 2025 ภายใน ต่างจากรุ่นเก่ายังไง ?

  • ออกแบบคอนโซลกลางใหม่ ด้วยการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนทั้งส่วนบนและส่วนล่าง โดยมาพร้อมช่องเก็บของพร้อมถาดอเนกประสงค์
  • ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
  • อัปเกรดช่องเชื่อมต่อ USB เป็นทั้งหมด 4 ตำแหน่ง ในทุกรุ่นย่อย โดยมาพร้อมช่องเชื่อมต่อ USB Type-C จำนวน 3 ช่อง (ด้านหน้า 1 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่อง) และช่องเชื่อมต่อ USB Type-A ด้านหน้า จำนวน 1 ช่อง
  • มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว พร้อมจอแสดงไฟเบรก

รีวิว Honda HR-V e:HEV RS 2025

Honda HR-V e:HEV ทุกรุ่นย่อย ใช้เป็นเครื่องยนต์ฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว ในระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Power Unit - IPU) พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งมีน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด สามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่โดยอัตโนมัติในขณะขับขี่ แรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0-3,500 รอบต่อนาที อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่เคลมไว้ 25.6 กิโลเมตร/ลิตร

ทดสอบการขับขี่

รีวิว Honda HR-V e:HEV RS 2025

ในเรื่องของอัตราเร่ง เจ้าคันนี้ใช้ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ผสานการทำงานร่วมกันของเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว (ตัวนึงใช้ขับเคลื่อน อีกตัวใช้ปั่นไฟเข้าไปเก็บในแบต) มีแรงม้าและแรงบิดมากพอที่จะแบกตัวรถและผู้โดยสารให้เคลื่อนที่ไปได้แบบสบาย จังหวะของการขับออกตัว หรือช่วงที่ใช้ความเร็วต่ำ จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ทำให้เราไม่ต้องเค้นพละกำลัง พอเติมคันเร่งเข้าไปอีกนิด สัมผัสได้ถึงความแรงแบบพอประมาณ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราเหยียบคันเร่งแบบคิกดาวน์ แล้วลากแบบยาว ๆ เสียงโหยหวนของเครื่องยนต์ก็จะดังเข้าตัวรถทันที สำหรับโหมดขับขี่ จะมีให้เลือก 3 โหมด ซึ่งแต่ละโหมดก็จะได้ความรู้สึกที่ต่างกันดังนี้

  • ECON Mode : โหมดการขับขี่แบบประหยัด โหมดนี้ระบบปรับการทำงานให้สัมพันธ์กับการขับขี่เพื่ออัตราการประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น เมื่อเหยียบคันเร่งในโหมดนี้ จะรู้สึกตื้อๆในช่วงออกตัว แต่พอไต่ระดับความเร็วขึ้นไปเรื่อย ๆ ก็จะได้ความรู้สึกคล้ายกับโหมดปกติ เหมาะกับการขับใช้งานทั่วไปแบบไม่เร่งรีบ เช่นขับตอนรถติด หรือขับในเมือง เป็นต้น
  • Normal Mode : โหมดการขับขี่แบบปกติ คันเร่งจะไวติดเท้ามากขี้น หากเทียบกับโหมดประหยัด เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป 
  • Sport Mode : โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต คันเร่งจะติดเท้ามากกว่าโหมดอื่นๆ เร่งแซงได้แบบทันใจ แต่โหมดนี้ก็ต้องแลกกับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่กินมากกว่า 2 โหมดก่อนหน้า

ด้วยความที่ตัวรถมีขนาดไม่ใหญ่เทอะทะ จึงทำให้การขับขี่ในเมืองคล่องตัว จอดรถง่าย ขับซอกแซกเข้าออกซอกซอยได้ง่าย มุดซ้ายมุดขวาในสภาพการจราจรหนาแน่นได้ดี มีกล้อง LaneWatch เพื่อดูรถทางฝั่งซ้าย ช่วยให้การขับเปลี่ยนเลนมีความปลอดภัยมากขึ้น

สำหรับการขับเข้าโค้งที่ความเร็ว 100-110 กม./ชม. ก็ทำได้มั่นใจครับ ตัวรถไม่ร่อน เข้าโค้งแรง ๆ ท้ายไม่ออก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตำแหน่งการวางแบตเตอรี่ไฮบริดที่อยู่ด้านท้าย และมีน้ำหนักมากพอในการช่วยกดตัวรถ จะสังเกตได้ชัดเวลาขับจั้มคอสะพาน ท้ายรถจะไม่โยนมาก ช่วงล่างซับแรงสะเทือนได้พอประมาณ ไม่ถึงกับนุ่ม แต่จะออกแนวเฟิร์มซะมากกว่า ในส่วนของการเก็บเสียง เรียนตามตรงว่าผมยังไม่ค่อยประทับใจซักเท่าไหร่ ยังคงได้ยินเสียงที่ดังจากพื้น และเสียงลมที่ดังมาจากด้านข้าง หากใครซื้อรุ่นนี้ ผมแนะนำให้เอาไปแดมป์เก็บเสียงเพิ่มอีกนิดจะช่วยได้เยอะเลยล่ะครับ

ทดสอบระบบความปลอดภัย Honda SENSING 6 ระบบ

ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก : หากเราขับรถมาแบบเพลินๆ แล้วรถคันหน้าเบรกแบบกะทันหัน หรือขับจี้ท้ายรถคันหน้ามากเกินไป ที่หน้าจอเรือนไมล์จะมีสัญลักษณ์และเสียงเตือน และระบบจะช่วยเบรกให้แบบอัตโนมัติหากอยู่ในระยะที่เริ่มไม่ปลอดภัย

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถคันหน้าที่ความเร็วต่ำ : เมื่อเราล็อกความเร็วเอาไว้ เราสามารถยกเท้าออกจากคันเร่งได้เลย หากคันหน้าเบรก รถเราก็จะเบรกตาม หากคันหน้าเพิ่มความเร็ว รถเราก็จะเพิ่มความเร็วตามจนถึงความเร็วที่เราล็อกเอาไว้ นอกจากนี้ เรายังสามารถตั้งระดับของความห่างระหว่างคันหน้าได้ 4 ระดับ

ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ : หากเราเปลี่ยนเลนโดยไม่เปิดไฟเลี้ยว ระบบจะขึ้นสัญญาณเตือนที่หน้าจอ พร้อมกับหน่วงพวงมาลัยดึงให้ตัวรถกลับเข้ามาในเลน หากใครยังไม่ชินกับระบบนี้อาจรู้สึกหงุดหงิด เพราะพวงมาลัยจะขืนเมื่อเราขับทับเส้นเลนถนน แต่สำหรับผม ผมว่าเป็นระบบที่ดีเพราะช่วยสร้างวินัยในการขับรถ ทำให้การเปลี่ยนเลนจะต้องเปิดไฟเลี้ยวทุกครั้งจนติดเป็นนิสัย

ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ : การใช้งานระบบนี้ เราจะต้องกดปุ่มที่ฝั่งขวาของพวงมาลัย โดยระบบนี้กล้องที่อยู่ด้านบนของกระจกหน้า จะตรวจจับเส้นเลนถนน และจะบังคับควบคุมตัวรถให้อยู่กึ่งกลางของเลน และในทางโค้งพวงมาลัยก็จะหมุนเลี้ยวให้เอง แต่ถ้าเรายกมือออกจากพวงมาลัยนานเกินไป ระบบจะเตือนเพื่อให้เราเอามือจับพวงมาลัย

ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ พร้อมระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ: เมื่อขับผ่านเส้นทางที่มืด ไม่มีรถอยู่ด้านหน้า ระบบจะเปิดไฟสูงให้แบบอัตโนมัติ แต่ถ้ากล้องที่อยู่ด้านบนของกระจกตรวจจับได้ว่ามีรถวิ่งสวนทางมา ก็จะปรับเป็นไฟต่ำ สำหรับรุ่น RS จะได้ระบบระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะเพิ่มเข้ามาด้วย ความพิเศษก็คือสามารถปรับแยกอิสระซ้าย-ขวา ได้ การขับในเมืองอาจไม่ได้ใช้ระบบนี้สักเท่าไหร่ เพราะในเมืองมีแสงไฟถนนเยอะอยู่แล้ว แต่มีประโยชน์มากเวลาเดินทางข้ามจังหวัดตอนกลางคืน

ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ : ระบบจะตรวจจับการเคลื่อนที่ของรถคันหน้า จากนั้นจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอแสดงข้อมูลและสัญญาณเสียง เพื่อให้ผู้ขับขี่เคลื่อนที่ตามรถคันหน้า

สรุปโดยรวมหลังจากที่ได้ใช้งาน

สิ่งที่ชอบในรถรุ่นนี้

เป็นรถที่ประหยัดน้ำมันแบบไม่ต้องพยายาม หลายครั้งที่เราเห็นค่ายรถเคลมเรื่องอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงในโบรชัวร์ มันช่างแตกต่างจากการใช้งานในชีวิตจริง แต่สำหรับรุ่นนี้ ผมว่าตัวเลขที่ทางฮอนด้าเคลม ไม่เกินจริงครับ ขนาดว่าผมขับแบบตามใจเท้า มีขับซิ่งบ้างเมื่อเจอทางโล่ง และจอดนิ่งสนิทเมื่อวิ่งเส้นสุขุมวิท สาธร สีลม ผมยังทำได้ 21.4 กม. ถ้าเทียบกับไซส์รถ และลักษณะการใช้งาน ผมว่าเป็นรถที่ประหยัดน้ำมันใช้ได้เลยครับ เฉลี่ยค่าน้ำมันต่อระยะทาง 1 กม. = 1.43 บาท (คำนวณจากราคาน้ำมัน E20 ณ วันที่เติม ในราคาลิตรละ 30.74 บาท)

รีวิว Honda HR-V e:HEV RS 2025

ดีไซน์สวย ขนาดพอเหมาะ ในเรื่องของการดีไซน์ มันขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน ผมคงไม่สามารถตัดสินแทนใครได้ แต่โดยส่วนตัว ผมว่าโฉมนี้ดีไซน์เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย ขับแล้วดูภูมิฐาน โดยเฉพาะรุ่นย่อย RS ผมว่าชุดแต่งที่ใส่มาให้ ดูไม่เลอะเทอะ ขนาดตัวรถพอเหมาะ ไม่เล็กจนอึดอัด และไม่ใหญ่จนเทอะทะ ขับในเมืองคล่องตัว ขับออกต่างจังหวัดก็ได้มุมมองที่ดี

HONDA เป็นแบรนด์ที่เชื่อถือได้ มีศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศ ข้อนี้ผมว่าสำคัญมากๆ ครับ การที่เราจะเลือกซื้อรถมาใช้งานซักคันนึง เราควรมองอนาคตด้วยว่า ถ้าวันนึงรถมีปัญหาเค้าจะปัดความรับผิดชอบไหม อนาคตจะหาอะไหล่ได้ไหม ถ้าอยู่ต่างจังหวัดจะมีศูนย์ใกล้บ้านไหม ซึ่งฮอนด้าก็ทำให้เราเห็นแล้วว่าเค้าเป็นแบรนด์ที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน มีศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศ จากประสบการณ์ตรงของผมเอง ผมก็เป็นลูกค้าฮอนด้าครับ ปัจจุบันใช้ JAZZ GK อยู่ มีอยู่ครั้งนึงเอารถเข้าศูนย์ แล้วแจ้งช่างว่าได้ยินเสียงหอนขณะเร่งเครื่อง ช่างไม่รีรอที่จะทำเรื่องเคลมชิ้นส่วนที่มีปัญหาให้ และใช้เวลารออะไรไม่นาน

สิ่งที่ไม่ชอบในรถรุ่นนี้

กล้องและจอยังไม่ชัดเท่าที่ควร ด้วยราคาตัวรถหนึ่งล้านบาท ถ้าเป็นสมัยก่อนเราอาจจะไม้ได้หวังอะไรมากกับความคมชัดของกล้องเพราะยังไม่มีคู่เปรียบเทียบเยอะ แต่ปัจจุบันปี 2025 มีรถจากค่ายจีนที่ขายราคาถูกกว่า กล้องชัดกว่า เลยทำให้มีจุดเปรียบเทียบถึงความคุ้มค่า และพบว่ารถค่ายจีนชนะขาดเรื่องความคมชัดของจอและกล้อง

การเก็บเสียงยังไม่ค่อยประทับใจเท่าที่ควร เมื่อใช้ความเร็ว 90 กม./ชม. ขึ้นไปจะได้ยิดเสียงลม และเสียงที่ดังจากช่วงล่าง

รีวิว Honda HR-V e:HEV RS 2025

Honda HR-V e:HEV RS ราคา 1,179,000 บาท

มีให้เลือก 6 สี ได้แก่

  • สีใหม่ สีกากีแซนด์ (มุก) หลังคำดำ (ต้องเพิ่มเงิน 14,000 บาท)
  • สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) หลังคาสีดำ (ต้องเพิ่มเงิน 10,000 บาท)
  • สีขาวแพลทินัม (มุก) (ต้องเพิ่มเงิน 12,000 บาท)
  • สีขาวพรีเมี่ยมซันไลต์ (มุก) (ต้องเพิ่มเงิน 12,000 บาท)
  • สีดำคริสตัล (มุก) (ต้องเพิ่มเงิน 8,000 บาท)
  • สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก)

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ