ปลุกจิตวิญญาณสายลุยในตัวคุณ ด้วย 9 รถทรงกล่อง ที่มาแรงที่สุดในปี 2025 มาดูกันซิ้ว่า... คุณจะอยู่ทีมไหน?
ยุคของ เรโทร-ออฟโรด ครองเมือง! ปลุกจิตวิญญาณสายลุยในตัวคุณ
สังเกตบนท้องถนนช่วงนี้ไหม? เทรนด์รถดีไซน์ "ทรงกล่อง" สไตล์เรโทร-ออฟโรด ที่ผสมผสานความดิบในอดีตเข้ากับความเท่ในปัจจุบันได้อย่างลงตัว กำลังกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง เพราะนี่คือยุคที่คาแรคเตอร์ สามารถเอาชนะแอโรไดนามิกส์ได้ มาปลุกจิตวิญญาณสายลุยในตัวคุณให้ลุกโชนอีกครั้ง ด้วย 9 รถทรงกล่อง ที่มาแรงที่สุดในปี 2025 กันค่ะ

GWM TANK 300 Diesel
รถยนต์ออฟโรดดีไซน์ Retro-Boxy ที่ฮิตถล่มทลาย มีคาแรคเตอร์ชัดเจน ไม่ใช่แค่ SUV ขับสี่ธรรมดา ยิ่งเค้าถอดระบบไฮบริดออก แล้วแทนที่ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ที่เน้นความทนทาน แรงบิดหนักๆ และที่สำคัญคือทำราคาให้เข้าถึงง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 2.4 ลิตร เทอร์โบ ให้พละกำลัง 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Full-time พร้อมโหมดการขับขี่ 2H, 4H และ 4L

จุดแข็งที่สุดของ TANK 300 Diesel คือราคาเปิดตัวที่จับต้องได้ รวมถึงการรับประกันเครื่องยนต์ 1,000,000 กิโลเมตร และยังมาพร้อมโครงสร้างรถออฟโรดแท้ๆ ที่พร้อมลุยป่าฝ่าโคลนได้จริง ไม่ใช่แค่เอาไว้ขับสวยๆ ในเมืองเท่านั้น มีแรงบิดมหาศาลในรอบต่ำ ทำให้มีกำลังฉุดลากที่ทรงพลัง

ในส่วนของข้อด้อยก็ต้องยอมรับว่า แรงม้า 184 แรงม้า กับรถที่มีน้ำหนักตัวกว่า 2 ตัน มันอาจจะไม่ใช่รถที่ที่ปรู๊ดปร๊าดสั่งได้ รวมถึงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Full-time จะมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ไล่เลี่ยกันกับในรุ่นไฮบริด หากเทียบกันใน ECO Sticker
GWM TANK 300 Diesel คือตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคนที่ต้องการ รถออฟโรดแท้ๆ ที่หน้าตาหล่อและออปชั่นล้นในราคาที่จับต้องได้
JAECOO 5 EV MAX
รถยนต์ Compact SUV ไฟฟ้า 100% จากเครือ Chery ที่ถูกส่งเข้ามาเพื่อเจาะตลาดกลุ่มซิตี้คาร์โดยเฉพาะ โดยใช้กลยุทธ์ทุบราคาและอัดสมรรถนะให้เหนือกว่าคู่แข่งในระดับราคาเดียวกันทั้งหมด มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) ให้พละกำลังสูงสุด 211 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 288 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ LFP ขนาด 58.9 kWh สามารถวิ่งได้ระยะทาง 461 กม./ชาร์จ (ตามมาตรฐาน NEDC) ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 7.7 วินาที

JAECOO 5 EV มีสมรรถนะที่แรงสวนทางกับราคา ในขณะที่คู่แข่งส่วนใหญ่ให้กำลังที่ 100-170 แรงม้า เท่านั้น ทำให้ตอบโจทย์คนที่ชอบการขับขี่ที่สนุกสนานและมีอัตราเร่งที่ทันใจ แถมยังมีฟีเจอร์ที่ปกติจะอยู่ในรถราคาสูงกว่ามาเป็นมาตรฐาน อาทิ หลังคากระจก Panoramic Roof, กล้อง 540 องศา (รวมกล้อง 360 องศา และฟังก์ชันแสดงภาพใต้ท้องรถ) และระบบช่วยเหลือการขับขี่ (ADAS) พื้นฐานที่ครบครัน

JAECOO 6 EV AWD
รถยนต์ไฟฟ้าดีไซน์ออฟโรดสุดคลาสสิก ที่ได้แรงบันดาลใจจากพวกรุ่นใหญ่สายลุยอย่าง Defender หรือ G-Class มาย่อส่วนและตีความใหม่ในโลกของ EV 100% มีคาแรคเตอร์ที่เน้นความโดดเด่น, บึกบึน และภาพลักษณ์ที่พร้อมผจญภัย สำหรับในตัวขับ 4 มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้พละกำลัง 275 แรงม้า แรงบิด 385 นิวตันเมตร ติดตั้งแบตเตอรี่ LFP ขนาด 65.7 kWh วิ่งได้ไกลสูงสุด 501 กม./ชาร์จ (มาตรฐาน NEDC)

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ JAECOO 6 EV เค้าใช้โครงสร้างตัวถังแบบ Aluminium-Alloy Body และมีโหมดการขับขี่มากถึง 10 โหมด รวมถึงโหมด Off-road เช่น ทราย, โคลน และหิมะ รวมถึงเลือกใช้เทคโนโลยีชิป Snapdragon 8155 ที่ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ไม่หน่วง ไม่กระตุก

แต่แน่นอนว่ารถที่มากับรูปทรงสไตล์ Boxy ต้องแลกมาด้วยความต้านลม ซึ่งจะทำให้ JAECOO 6 EV คันนี้ มีเสียงลมปะทะที่ดังกว่า รถ SUV ทรงลู่ลมทั่วไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อขับด้วยความเร็วสูง รวมถึงช่วงล่างที่เซ็ตมาเพื่อรองรับการขับขี่แบบออฟโรด อาจให้ความรู้สึกที่กระด้างกว่า SUV เมืองทั่วไปเล็กน้อย
Chery V23
กล่องติดล้อของแท้ที่คนไทยรอคอย Chery V23 คือการตอบโจทย์เทรนด์รถทรงกล่องที่กำลังมาแรงทั่วโลก และถูกนำมาตีความใหม่ในรูปแบบของรถยนต์ไฟฟ้า ในขนาด B-SUV ที่เหมาะกับการใช้งานในเมือง มีมิติตัวถังที่ยาว 4,220 มม. กว้าง 1,915 มม. (กว้างกว่า Fortuner) สูง 1,845 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,735 มม. (ยาวกว่า Corolla Cross) สำหรับในรุ่นนี้มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 81.76 kWh. ให้กำลังสูงสุด 211 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 292 นิวตันเมตร วิ่งได้ไกลสูงสุด 430 กิโลเมตร/ชาร์จ (มาตรฐาน NEDC) ทำอัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ได้ในเวลา 7.5 วินาที มีระบบ V2L (Vehicle-to-load) ที่ให้กำลังสูงสุด 3.3 กิโลวัตต์ มาให้ด้วย

Chery V23 ขึ้นชื่อในเรื่องของการเป็นรถแฟชั่น ที่ผสมผสานความดิบของ G-Class, ความบึกบึนของ Defender และความน่ารักของ Jimny เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ขับไปไหนก็มีแต่คนมอง แค่ดีไซน์อย่างเดียวก็กินขาด อีกทั้งยังมีขนาดที่ใช่สำหรับเมืองไทย ทำให้คล่องตัวสุดๆ ถึงจะมีตัวถังที่สั้นแต่ก็มีระยะฐานล้อที่ยาวและตัวถังที่กว้างมาก ทำให้ภายในไม่รู้สึกอึดอัด

แต่ข้อดอยที่สำคัญเลยก็คือในเรื่องของระยะขับจริง ซึ่งน่าจะอยู่ที่ประมาณ 300-400 กม. ที่เพียงพอต่อการใช้งานในเมือง แต่สำหรับรถที่หน้าตาพร้อมลุยขนาดนี้ มันอาจจะไม่เหมาะกับการขับลุยป่าทางไกลจริงๆ โดยไม่วางแผนการชาร์จให้ดี
KIA EV9 GT-Line AWD
เป็นยานแม่ที่สร้างเสียงฮือฮาในตลาดบ้านเราอันดับต้นๆ เลย ด้วยดีไซน์ของ KIA EV9 ที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ 3 แถว 6 ที่นั่ง มาพร้อมเทคโนโลยี สถาปัตยกรรมไฟฟ้า 800V ซึ่งเข้ามาในฐานะกลุ่มพรีเมียมอย่างเต็มตัว มาพร้อมขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ให้กำลังสูงสุด 384 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร ทำงานควบคู่กับแบตเตอรี่ขนาด 99.8 kWh วิ่งไกลสูงสุด 505 กม./ชาร์จ (ตามมาตรฐาน WLTP) ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 5.3 วินาที

KIA EV9 คือที่สุดแห่งความโดดเด่น ด้วยหน้าตาแบบ Digital Tiger Face รูปทรงกล่องที่บึกบึนแต่ล้ำสมัย ทำให้ EV9 ดูเหมือนรถต้นแบบที่หลุดออกมาจากหนังไซไฟ ไม่ซ้ำใครบนท้องถนนแน่นอน มาพร้อมกับความอเนกประสงค์ระดับ First Class ไฮไลท์คือ เบาะนั่งแถวที่ 2 แบบ Captain Seat ที่สามารถหมุนได้ 180 องศา เบาะนั่งแถว 3 ยังกว้างขวางพอที่ผู้ใหญ่จะนั่งได้จริง ไม่ใช่แค่ที่นั่งสำหรับเด็ก ข้อได้เปรียบอีกหนึ่งจุดก็คือเทคโนโลยีการชาร์จ 800V ทำให้ EV9 สามารถรับการชาร์จไฟ DC ได้เร็วมากๆ

แต่ทั้งหมดนี้ต้องแลกมากับราคาค่าตัวที่สูงถึง 3.9 ล้านบาท เนื่องจากเป็นการนำเข้า CBU ทั้งคัน ซึ่งราคานี้ทำให้ KIA EV9 อยู่ในระดับราคาเดียวกับรถ SUV หรูจากยุโรปอย่าง BMW iX3 หรือ Mercedes-EQE SUV ซึ่งเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งในด้านภาพลักษณ์แบรนด์
Suzuki Jimny
ถือเป็นปรากฏการณ์ในวงการยานยนต์ไทยอย่างแท้จริง และกลายเป็นแรร์ไอเทม ที่คนตามหากันมากที่สุด เพราะ Suzuki Jimny คือขวัญใจสายแฟชั่น ที่สามารถลุยได้จริง ซึ่งคนที่จะซื้อได้จะต้องซื้อจาก "อารมณ์และสไตล์" นำเหตุผลด้านของราคา ที่มีให้เลือกทั้งแบบ 3 และ 5 ประตู มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร (ตัวเดียวกับ Suzuki Swift และ Ertiga) ให้พละกำลัง 102 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 130 นิวตันเมตร ทำงานด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ด้วยระบบขับเคลื่อนแบบ Part-time 4WD "AllGrip Pro" ที่มีเกียร์ Low Range (4L) สำหรับการลุยหนักโดยเฉพาะ

Suzuki Jimny สามารถใช้งานในแบบ Off Road ได้จริง แถมยังมีความล่องตัวในเมืองอีกด้วย โดยเฉพาะรุ่น 3 ประตู มีวงเลี้ยงที่แคบ ทำให้ Jimny เป็นรถที่มุดสนุกและจอดง่ายมากในการใช้งานในเมืองที่การจราจรหนาแน่น และที่สำคัญที่สุดก็คือ ราคาขายต่อแข็งโป๊ก เนื่องจากโควต้านำเข้าน้อยและกระแสความต้องการที่สูงมาก ทำให้ Jimny กลายเป็นรถสะสมไปแล้ว ราคาขายต่อมือสองบางคันแทบไม่ต่างจากราคามือหนึ่งเลย

ในส่วนของข้อด้อย แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องของราคาที่ไม่สมเหตุสมผล ด้วยกำแพงภาษีทำให้ราคามันพุ่งไปแตะ 1.7 - 1.8 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่คุณสามารถซื้อ PPV 7 ที่นั่ง หรือ C-SUV ดีๆ ได้เลย รวมถึงฟีลลิ่งการขับขี่แบบ Bumpy Ride ที่มีโครงสร้างแบบคานแข็งและฐานล้อที่สั้น ทำให้ช่วงล่างค่อนข้างกระด้างและดีด เมื่อเจอถนนที่ไม่เรียบ
Mercedes-Benz G 63 AMG
คันนี้เองที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายต่อหลายค่าย Mercedes-Benz G-Class หรือที่หลายคนเรียกติดปากว่า G-Wagen ราชาแห่ง SUV ทรงกล่อง ไอคอนของวงการยานยนต์ที่ยืนหยัดมานานกว่า 40 ปี โดยมีจุดเริ่มต้นจากการเป็นรถยนต์สำหรับทางการทหาร ก่อนจะถูกพัฒนาจนกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จและความหรูหราขั้นสุดในปัจจุบัน

Mercedes-Benz G-Class ในรุ่น G 63 AMG ตัวท็อปสายโหด มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 4.0 ลิตร Bi-Turbo ผลิตพละกำลัง 585 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.5 วินาที สมรรถนะที่ได้ให้มาในระดับซูเปอร์คาร์ พร้อมแต่งหล่อมาแล้วจากโรงงาน
เป็นตำนานที่ฆ่าไม่ตาย ซึ่งนี่เป็นเหตุผลข้อแรกและข้อเดียวที่หลายคนยอมจ่าย ให้กับดีไซน์และความมคลาสสิกที่มองยังไงก็ไม่เบื่อ มาพร้อมกับสุดยอดสมรรถนะออฟโรดของจริง ด้วยโครงสร้าง Body-on-Frame หรือ แชสซีส์แบบขั้นบันได และระบบล็อกเฟืองท้าย 3 ตัว ที่พร้อมจะปีนป่ายไปในทุกที่ที่รถคันอื่นไปไม่ถึง ในส่วนของภายในคือที่สุดของความหรูหรา แม้ข้างนอกจะดูดิบ แต่ข้างในคือ S-Class ดีๆ นี่เอง ที่สมแล้วกับราคาหลัก 10 ล้าน

ส่วนขอเสียที่ต้องแลกก็คือ ซดน้ำมันสุดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรุ่น G 63 V8 Bi-Turbo ที่ซดน้ำมันเหมือนน้ำ เพื่อแลกกับพลังและเสียงคำรามที่เร้าใจ รวมถึง G-Class เป็นรถที่มีวงเลี้ยวที่ค่อนข้างกว้าง การขับในซอยแคบๆ หรือการหาที่จอดรถในห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองกรุงเทพฯ อาจจะต้องใช้ทักษะและความระมัดระวังสูงมาก
Land Rover Defender
Land Rover Defender สุภาพบุรุษสายลุยหนึ่งในไอคอนที่กลับมาเกิดใหม่ในเจเนอเรชันล่าสุดอย่าง L663 ที่ลบภาพจำเดิมๆ ของรถลุยสายดิบ ให้กลายเป็น SUV หรูที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยี แต่ยังคงรักษาจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยไว้ได้อย่างน่าทึ่ง มีให้เลือกทั้งแบบดีเซล D300 เบนซิน P400 และปลั๊กอินไฮบริด P400e โดยมีสเปคดังนี้

-
D300 (ดีเซล MHEV)
-
เครื่องยนต์: ดีเซล 6 สูบแถวเรียง ขนาด 3.0 ลิตร Mild-Hybrid (MHEV)
-
พละกำลัง: 300 แรงม้า (PS)
-
แรงบิดสูงสุด: 650 นิวตันเมตร
-
-
P400 (เบนซิน MHEV)
-
เครื่องยนต์: เบนซิน 6 สูบแถวเรียง ขนาด 3.0 ลิตร Mild-Hybrid (MHEV)
-
พละกำลัง: 400 แรงม้า (PS)
-
แรงบิดสูงสุด: 550 นิวตันเมตร
-
-
P400e (Plug-in Hybrid)
-
เครื่องยนต์: เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ + มอเตอร์ไฟฟ้า
-
พละกำลังรวม: 404 แรงม้า (PS)
-
แรงบิดสูงสุด: 640 นิวตันเมตร
-
วิ่งไฟฟ้าล้วน: ประมาณ 43 กม. (WLTP)
-

Land Rover Defender มีโครงสร้างตัวถังเป็นอะลูมิเนียม Monocoque (D7x) ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ช่วงล่างถุงลมแบบ Adaptive Air Suspension ที่สามารถปรับโหมดการขับขี่ตามสภาพพื้นผิวอัจฉริยะได้อีกด้วย ซึ่งคุณจะสามารถได้รับความสบายบนถนนที่สวนทางกับหน้าตา แต่ถึงแม้ว่าจะมอบความนุ่มนวลบนถนน แต่เมื่อลงทางออฟโรด มันคือ Land Rover ของจริง ที่สามารถลุยผ่านอุปสรรคโหดๆ ได้อย่างง่ายดาย
ข้อเสียเปรียบของ Land Rover Defender ก็คือเรื่องของค่าบำรุงรักษา ที่ประกอบไปด้วยค่าอะไหล่และค่าบริการหลังการขายที่แพงกว่ารถยนต์ทั่วๆ ไป รวมถึงเป็นรถที่กินน้ำมันพอสมควร แม้จะมีระบบ Mild-Hybrid มาช่วยแล้วก็ตาม
Toyota Land Cruiser FJ
เป็นรถที่กระแสมาแรงตั้งแต่ก่อนเข้าไทย Toyota Land Cruiser FJ ตำนานที่เราคุ้นเคยกำลังจะกลับมาอีกครั้ง ในรูปแบบ SUV 5 ที่นั่ง ขนาดเล็กกว่า Fortuner เล็กน้อย โดยจะใช้พื้นฐานแชสซีส์แบบเดียวกับ Hilux Champ แต่เน้นลุยมากกว่า มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.7 ลิตรเบนซิน ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 246 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ Super ECT ขับเคลื่อน 4 ล้อ Part-Time 4WD

แฟนคลับเตรียมเฮได้เลย เพราะคาดว่า Toyota Land Cruiser FJ จะเข้าไทยในปี 2026 ช่วงเดือนมีนาคม ซึ่งถ้าให้เลดี้เดาราคาจำหน่าย น่าจะประมาณ 1.2 - 1.3 ล้านบาท ค่ะ
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ความคิดเห็น