สอน วิธีใช้มาตรวัด Trip A กับ B Share this
รีวิวรถยนต์
โหมดการอ่าน

สอน วิธีใช้มาตรวัด Trip A กับ B

Paknam536
โดย Paknam536
โพสต์เมื่อ 30 June 2564

Trip A กับ Trip B หลายๆ ท่านคงเคยเห็นหน้าตาของมันผ่านหน้าจอเรือนไมล์ทั้งรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ ว่าแต่เจ้าสิ่งนี้มีไว้ใช้ทำอะไร และควรใช้ตอนไหน


จับ TRIP คืออะไร

TRIP หรือชื่อเต็มๆ ว่า TRIP Meter จะทำหน้าที่เป็นมาตรวัดระยะทางการขับขี่คล้ายกับ ODO แต่ผู้ใช้งานจะสามารถกดรีเซ็ทค่าให้เป็น 0 ได้ โดยตัวมิเตอร์นี้ จะทำหน้าที่วัดระยะทางขับขี่ตั้งแต่จุดที่เรารีเซ็ท ไปถึงจุดหมายปลายทางที่เราไป โดยมาตรวัดตัวนี้ผู้ใช้งานอาจจะนำไปใช้คำนวณระยะทางขับขี่ต่อครั้ง หรือจะเอาไปวัดระยะทางใช้งานในแต่ละวันก็สุดแล้วแต่ โดยตัวทริปมิเตอร์นี้ ส่วนใหญ่จะมีทั้งแบบทริปเดียว หรือ 2 ทริป ซึ่งแบบ 2 ทริปนี้ก็จะมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปแล้วแต่ค่ายผู้ผลิตรถอีก ทั้งแบบ Trip A, Trip B และ Trip 1, Trip 2 ซึ่งมันก็คือตัวเดียวกัน มีหลักการทำงานเหมือนกัน

สถานการณ์ที่ผู้ขับขี่ส่วนใหญ่ มักนิยมใช้จับทริป ยกตัวอย่างเช่น

1. วัดระยะทางการขับขี่ในแต่ละวัน
2. วัดระยะทางการขับขี่ในการเดินทางข้ามจังหวัด
3. วัดระยะทางขับขี่ต่อน้ำมัน 1 ถัง

 

 

วิธีใช้มาตรวัด Trip A กับ B

วิธีใช้มาตรวัด Trip A กับ Trip B นั้นก็มีวิธีการที่ง่ายดายมากๆ เพียงแค่คุณมีความต้องการอยากวัดระยะทางจากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่ง คุณก็กดปุ่ม Reset บนหน้าปัดเรือนไมล์ค้างไว้ราวๆ 3 วินาที ตัวเลขมาตรวัดของเดิมก็จะถูกรีเซ็ทเป็น 0 ทันที และถ้าอยากสลับจาก Trip A ไป B ก็กดปุ่ม Sel เพื่อเปลี่ยนได้เลย โดยรถยนต์ทุกรุ่นแทบจะใช้พื้นฐานการเปลี่ยนแบบนี้ทั้งหมด

***รถแต่ละรุ่นมีวิธีการเปลี่ยนไม่เหมือนกัน ควรศึกษาข้อมูลจากหนังสือคู่มือรถ***

 

รถที่มีเรือนไมล์แบบเข็ม มักจะมีปุ่มกดเลือกและรีเซ็ตอยู่บนเรือนไมล์เลย วิธีการง่ายๆ คือกดปุ่ม Sel หรือ Select หรือบางรุ่นอาจจะใช้ชื่อว่า ODO/TRIP/DISP (Display) อย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ล้วนแล้วแต่สื่อถึงเจ้าฟังก์ชั่นนี้ทั้งสิ้น เพื่อเปลี่ยนหน้าจอแสดงผลข้อมูลไปยังตัวจับทริป แล้วค่อยกดปุ่ม Reset ค้างไว้ หรือในรถยนต์บางรุ่นก็กดปุ่ม Select ค้างไว้ ก็จะเป็นการรีเซ็ตได้เช่นกัน สามารถทดลองทำก่อนได้ ไม่มีผลต่อการขับขี่ใดๆ

 

 

กดค้างไว้สักครู่จนกว่าตัวเลขจะกลายเป็น 0 เป็นอันเสร็จสิ้น

 

 

ส่วนรถยนต์รุ่นที่ใช้หน้าจอเรือนไมล์แบบจอดิจิตอลทั้งหลาย มักจะมีปุ่มควบคุมการทำงานอยู่บนพวงมาลัย ก็ใช้หลักการเดียวกันเช่นกันคือกดเลือกเมนูจนกว่าจะเจอหน้าจอแสดง Trip แล้วจึงกด Reset โดยในรถยนต์บางรุ่น เมนูนี้มักจะอยู่ในหมวดของข้อมูลการขับขี่ (Driving information)

 

กดเมนูรีเซ็ตการตั้งค่า

เสร็จสิ้น

 

ค่า Trip และ ODO แตกต่างกันอย่างไร

โดยสรุปแล้ว ค่า Trip และ ODO มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน และมีจุดประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกัน อย่าง ODO ทำหน้าที่วัดระยะทางการใช้งานรถตั้งแต่รถถูกผลิตขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน โดยที่ผู้ใช้ไม่สามารถรีเซ็ทได้ ส่วน Trip คือมาตรวัดระยะทางที่ผู้ใช้สามารถกำหนดเองได้ว่าจะใช้งานมันอย่างไร และสามารถรีเซ็ทด้วยตนเองได้

 

ทั้งนี้ การรีเซ็ตตัวจับทริปในรถยนต์แต่ละรุ่น มีวิธีการที่แตกต่างกันออกไป ผู้ใช้ ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม จากหนังสือคู่มือรถของท่านครับ

 

อ่าน ขนส่ง เล็งเปลี่ยนเกณฑ์อายุทำใบขับขี่ BigBike พร้อมเปิดท่าสอบขับ 11 ท่า
อ่าน วิธีต่อใบขับขี่ 2564 ต้องทำอะไรบ้าง
อ่าน ค่า Trip และ ODO คืออะไร ใช้บอกอะไร และควรใช้อย่างไร

ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com  
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่ 
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car


คำนวณค่างวดรถเบื้องต้น
Use the calculator to calculate the installment of your dream car
ระยะเวลาผ่อนชำระ (เดือน)
* ราคาค่างวดรวม VAT แล้ว สำหรับพิจารณาข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในการซื้อขายได้
อัตราการผ่อนชำระ (เดือน)
บาท
จำนวนงวด (เดือน)
สนใจขอสินเชื่อรุ่นนี้
* ราคาค่างวดรวม VAT แล้ว สำหรับพิจารณาข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในการซื้อขายได้

ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ