การซื้อหรือสะสมรถยนต์หรู หากมองในแง่ "การลงทุน" (Investment) ถือเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจนก่อน เนื่องจากโดยทั่วไปรถยนต์คือ "สินทรัพย์เสื่อมค่า" (Depreciating Asset) เกือบทุกคันที่ออกจากโชว์รูม มูลค่าจะลดลงทันที แต่คำว่า "คุ้มค่าแก่การลงทุน" ในวงการรถหรู หมายถึงอะไร และมีรถยนต์ค่ายใด รุ่นใดบ้าง ออโต้สปินน์ได้รวบรวมมาให้แล้ว
10 ยี่ห้อรถหรู รุ่นไหนควรค่าแก่การลงทุน
ก่อนจะไปถึงรถยนต์หรูของค่ายรถยนต์แต่ละบริษัทนั้น มาทำความเข้าใจถึงการลงทุนที่มีมูลค่าของตัวรถหรูกันก่อน โดยพิจารณาจากปัจจัยหลักๆ ดังข้อมูลด้านล่างนี้
รถหรูรุ่นไหน ควรลงทุนเพราะอะไร?
2 องค์ประกอบ ดังนี้
- ราคาตกช้า (Value Retention): เป็นรถที่ "เจ็บตัวน้อยที่สุด" เมื่อถึงเวลาขายต่อ เพราะความต้องการในตลาดสูง หรือมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่คนยังตามหา
- มูลค่าเพิ่ม (Appreciation): เป็นกรณีพิเศษที่เกิดขึ้นกับรถ "ของสะสม" (Collectibles) ซึ่งมักจะเป็นรุ่นพิเศษ (Special Edition), ผลิตจำนวนจำกัด (Limited Production), หรือเป็นรุ่นที่สร้างประวัติศาสตร์ (Iconic) ซึ่งอาจมีราคาสูงขึ้นในอนาคต
และนี่คือลิสต์ 10 ยี่ห้อรถหรู และรุ่นที่ "ควรค่าแก่การลงทุน" ที่สุดในแง่มุมดังกล่าว
3. Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์)
เปิดลิสต์ 10 แบรนด์หรู รุ่นที่ "คุ้มค่า" แก่การลงทุน
1. Porsche (ปอร์เช่)
- รุ่นที่ควรค่าแก่การลงทุน: Porsche 911 (โดยเฉพาะรุ่น GT3, GT3 RS, หรือรุ่นพิเศษ)
- เหตุผล: 911 คือ "ราชาแห่งการรักษาคุณค่า" (King of Value Retention) ด้วยประวัติศาสตร์ยาวนานและดีไซน์ที่ไม่เคยตกยุค ทำให้ 911 มือสองเป็นที่ต้องการเสมอ โดยเฉพาะรุ่นขับสนุกอย่างตระกูล GT ที่ผลิตจำกัด มักจะมีราคาขายต่อ "เท่าทุน" หรือ "กำไร" ด้วยซ้ำ

2. Ferrari (เฟอร์รารี่)
- รุ่นที่ควรค่าแก่การลงทุน: รุ่น V8 เครื่องวางกลาง (เช่น 488 Pista) หรือรุ่น Limited Series
- เหตุผล: นี่คือการลงทุนแบบ "ของสะสม" Ferrari ควบคุมการผลิตอย่างเข้มงวด รุ่นพิเศษ (เช่น Pista, SF90 Stradale, หรือซีรีส์ Icona) มักถูกจองหมดก่อนเปิดตัว และมีราคาสูงขึ้นทันทีในตลาดมือสอง

3. Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์)
- รุ่นที่ควรค่าแก่การลงทุน: G-Class (โดยเฉพาะ G 63 AMG)
- เหตุผล: ในขณะที่ S-Class หรือ E-Class ราคาตกตามปกติ แต่ G-Class (หรือ G-Wagen) คือข้อยกเว้น ด้วยดีไซน์ทรงกล่องที่ "อมตะ" และสถานะ "Iconic" ทำให้ G-Class เป็นที่ต้องการสูงมากในตลาด ราคาจึงแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ

4. Lexus (เลกซัส)
- รุ่นที่ควรค่าแก่การลงทุน: Lexus LX
- เหตุผล: นี่คือการลงทุนในแง่ "ความน่าเชื่อถือ" และ "ราคาตกช้า" Lexus LX (ที่เป็นฝาแฝดกับ Toyota Land Cruiser) ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานขั้นสูงสุด ใช้งานได้ยาวนานหลายสิบปี ทำให้ราคาขายต่อตกช้าน้อยที่สุดในกลุ่ม SUV หรูขนาดใหญ่

5. Rolls-Royce (โรลส์-รอยซ์)
- รุ่นที่ควรค่าแก่การลงทุน: Phantom (หรือรุ่น Bespoke ที่สั่งทำพิเศษ)
- เหตุผล: แม้ว่ารถกลุ่ม Ultra-Luxury จะมีการเสื่อมราคาสูงในช่วง 1-3 ปีแรก แต่ Phantom คือเรือธงที่เป็นสัญลักษณ์สูงสุดของความหรูหรา และ "ไม่เคยตกรุ่น" อย่างแท้จริง การลงทุนใน Rolls-Royce คือการลงทุนในสถานะทางสังคม และรุ่นที่สั่งทำพิเศษ (Bespoke) จะคงคุณค่าในกลุ่มนักสะสมได้ดีกว่ารุ่นปกติ

6. Bentley (เบนท์ลีย์)
- รุ่นที่ควรค่าแก่การลงทุน: Continental GT (โดยเฉพาะรุ่น Speed หรือ Mulliner)
- เหตุผล: Continental GT คือส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความหรูหราและสมรรถนะแบบสปอร์ต เป็นไอคอนของแบรนด์ในยุคใหม่ รุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ W12 (ซึ่งกำลังจะเลิกผลิต) เริ่มเป็นที่ต้องการของนักสะสม และรุ่นพิเศษจากแผนก Mulliner ก็จะรักษาคุณค่าได้ดีกว่า

7. Lamborghini (ลัมโบร์กินี)
- รุ่นที่ควรค่าแก่การลงทุน: รุ่น V12 (เช่น Aventador SVJ หรือ Ultimae)
- เหตุผล: การลงทุนใน Lamborghini คือการลงทุนใน "ยุคสุดท้าย" ของเครื่องยนต์สันดาป V12 ที่ไม่มีระบบไฮบริด รุ่นอย่าง Aventador SVJ หรือรุ่นสั่งลาอย่าง Ultimae ถือเป็นของหายากและเป็นที่ต้องการของนักสะสมทั่วโลกทันทีที่เปิดตัว

8. Audi (อาวดี้)
- รุ่นที่ควรค่าแก่การลงทุน: Audi R8 (V10 Performance)
- เหตุผล: R8 คือ "Supercar ที่ขับได้ทุกวัน" และที่สำคัญคือ "เครื่องยนต์ V10 หายใจเอง" บล็อกสุดท้ายในตลาด (ใช้ร่วมกับ Lamborghini Huracán) ซึ่งกำลังจะเลิกผลิตแล้ว ทำให้ R8 กลายเป็นรถที่นักสะสมเริ่มตามหา เพราะเป็นตำนานบทสุดท้ายของเครื่องยนต์สันดาปเพียวๆ จาก Audi

9. BMW (บีเอ็มดับเบิลยู)
- รุ่นที่ควรค่าแก่การลงทุน: BMW M3 / M4 (รุ่นพิเศษ CSL หรือ CS)
- เหตุผล: ในขณะที่ Series 7 หรือ X7 ราคาตกค่อนข้างเร็ว แต่ตระกูล M คือหัวใจของแบรนด์ที่รักษาคุณค่าได้ดีที่สุด โดยเฉพาะรุ่นพิเศษที่เน้นการขับขี่อย่าง "CSL" (Competition, Sport, Lightweight) ซึ่งผลิตจำกัดและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ มักจะกลายเป็นของสะสม

10. Tesla (เทสลา)
- รุ่นที่ควรค่าแก่การลงทุน: Model S Plaid
- เหตุผล: นี่คือการลงทุนใน "เทคโนโลยี" แม้ตลาดรถ EV จะผันผวน แต่ Model S Plaid คือเรือธงที่สร้างชื่อเสียงด้านสมรรถนะ (0-100 กม./ชม. ในเวลาสั้นที่สุด) และนวัตกรรมซอฟต์แวร์ การที่มันยังคงเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี ทำให้ยังคงรักษาแบรนด์รอยัลตี้และราคาขายต่อได้ดีกว่า EV หรูคู่แข่งหลายราย

ทั้ง 10 ยี่ห้อที่กล่าวมานั้น ล้วนเป็นแบรนด์รถหรูชั้นนำ (Premium/Luxury) ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในระดับสากล หวังว่ารายชื่อเหล่านี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณ!!
เรียบเรียงโดย Autospinn
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
- Hypercar คืออะไร แตกต่างจากรถ Supercar อย่างไร
- FERRARI VISION GRAN TURISMO รถแข่งคอนเซปต์คาร์ ที่นั่งเดี่ยว
- Bentley Flying Spur สีพิเศษ Ombre by Mulliner
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น